Diamond Understanding : Price

กว่าที่จะมาเป็นเพชรที่เจียรนัยสวยงามอย่างที่เราเห็นกัน เพชรต้องผ่านขั้นตอนมากมาย จากเหมืองเพชรทั่วโลก (ซึ่งกว่า 50% ถูกควบคุมโดย De Beers) ส่งไปยัง Sightholder ซึ่งเป็นบริษัทผู้เจียรนัยเพชรที่De Beerคัดเลือก ส่งไปยัง Wholesaler รายใหญ่รายย่อย จนถึงร้านจิวเวลรี่ที่เราเข้าไปเลือกซื้อ มูลค่าเพิ่มของแต่ละขั้นตอนก็จะทำให้เพชรมีมูลค่าสูงขึ้นไปเรื่อยๆตามลำดับ ดังกราฟ

 
Source: Conflict-Free Diamond Council
แสดงมูลค่าโดยรวมในตลาดโลก (ปี 2006) ของธุรกิจค้าเพชร ตั้งแต่เหมืองเพชรจนถึงร้านจิวเวลรี่ จะสังเกตเห็นว่ามูลค่าจะมากขึ้นเรื่อยๆในส่วนหลังๆ โดยเฉพาะจาก Wholesaler มาถึง Retailer มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า100%ทีเดียว
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็ไม่ได้เป็นเพราะว่าร้านจิวเวลรี่คิดกำไรมากเกินเหตุ แต่เป็นเพราะต้นทุนของแต่ละธุรกิจไม่เท่ากัน โดยร้านจิวเวลรี่จะมีต้นทุนที่สูงกว่าธุรกิจอื่นๆเมื่อเทียบกับยอดขาย

ทำไมแต่ละร้านขายเพชรราคาไม่เท่ากัน?
สาเหตุแรกก็คือ เพชรแต่ละเม็ดนั้นไม่มีเม็ดใดเหมือนกันอย่าง100% ถึงแม้จะระบุในใบ certificate ว่ามีเกรดเดียวกันทุกประการ เช่น ตำแหน่งของ inclusion ซึ่งความแตกต่างเหล่านี้ก็ทำให้ราคาอาจมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ถึงแม้จะมีเกรดเดียวกันทุกประการก็ตาม
สาเหตุถัดมาก็คือแต่ละร้านก็อาจมีต้นทุนที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ ราคาที่ซื้อจากแหล่งที่ได้รับเพชรมา, credit จากผู้ขาย, ซื้อมาด้วยเงินสด หรือ ขอยืมมาด้วย credit, ปริมาณ stock สินค้า, ทำเลที่ตั้งทำให้ค่าเช่าร้านแตกต่างกัน, ค่าตกแต่งร้าน, Branding เป็นต้น 
ซึ่งก่อนจะตัดสินใจซื้อควรเปรียบเทียบราคาและคุณภาพ การบริการจากหลายๆร้านก่อน

Price in Rapaport
Rapaport Diamond Report เป็น list ราคาขายเพชรที่ใช้สำหรับ Wholesaler ทั่วโลก ซึ่งจะเป็นราคาที่อัพเดตทุกเดือน การเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้จะต้องทำการสมัครสมาชิก ดังนั้นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดสำหรับผู้ซื้อก็คือขอดูจากร้านจิวเวลรี่ ราคาใน Rapaport เป็นราคาที่ใช้ในการต่อรองซื้อขายกันโดยทั่วไป มักจะเรียกกัน เป็นเปอร์เซ็นต์ส่วนลดจากราคา Rapaport เช่น Rapaport ลบ 7% เป็นต้น แน่นอนว่ายิ่งลบมากหมายถึงยิ่งซื้อได้ในราคาถูกลง
ผู้ซื้อควรจะสอบถามจากร้านที่กำลังจะซื้อเพชรว่าราคาที่ขายเป็นราคาที่ลดลงจากราคา Rapaport กี่เปอร์เซ็นต์ และควรจะต้องเปรียบเทียบกับหลายๆร้านเพื่อที่จะได้ราคาที่พอใจที่สุด
สำหรับเพชรที่มี shape แปลกหายาก, Fancy color diamond, และ เพชร Ideal Cut หรือ Hearts and Arrows มักจะมีราคาสูงกว่าราคาใน Rapaport เนื่องจากความหายาก

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ideal Cut
GIA ได้จัดเกรดของเพชร(Diamond grading)ไว้ทั้งหมด 4 ระดับ (class) ด้วยกัน คือ
Class 1 : Ideal
Class 2 : Very Fine
Class 3 : Fair
Class 4 : Poor
โดยที่เกรด Ideal - Very fine จะมีสัดส่วนต่างๆเป็นไปตามภาพด้านล่าง

 
Source: DiamondInfo.org

เพชร Ideal cut หรือ เพชร Hearts & Arrows (H&A) เป็นเพชรที่ได้รับการเจียรนัยได้สมบูรณ์แบบที่สุด มีลักษณะพิเศษ คือ จะให้แสงสะท้อนที่ perfect ที่สุด ซึ่งจะใช้เรียกกับเพชรรูปทรง Round เท่านั้น ที่เรียกว่า Hearts and Arrows นั้นเนื่องจาก เราจะเห็น pattern รูปหัวใจ 8 ดวงเมื่อมองจากด้านล่าง และ ลูกศร 8 ศร เมื่อมองจากด้านบน โดยหัวใจจะมีขนาดเท่ากันหมด ลูกศรก็จะมีขนาดเท่ากันหมด และทั้งหมดยังต้องวางตัวอย่างสมมาตรอีกด้วย เพชร Hearts and Arrows นั้นไม่ได้เจียรนัยกันง่ายๆ จะมีอยู่เพียงประมาณ 1-2% ของเพชรทั้งหมดในโลกนี้เท่านั้นเองที่จะสมบูรณ์แบบได้ระดับนี้ ซึ่งถึงแม้จะทำให้มีราคาสูงขึ้นราว 15%-20% จากเพชรเหลี่ยมอินเดีย (เกรดทั่วไป) แต่เป็นหลักประกันอย่างหนึ่งสำหรับผู้ซึ้อที่จะได้รับเพชรที่คุณภาพ สูงสุด และการตรวจดูไม่มีความสลับซับซ้อนอะไรมากนัก เพราะเพชร Hearts and Arrows นั้นมี standard ในการพิจารณาอย่างชัดเจน และจะถูกระบุไว้ในใบ certificate ด้วย

อ้างอิง : Nakarat Diamond, World Diamond Council

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย.

หากต้องการใช้บทความนี้เพื่อผลประโยชน์ทางการค้าหรือมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆก็ตาม กรุณาติดต่อ gemclubcmu@gmail.com ค่ะ

Posted by NonNY~* on 10/12/2551. Filed under diamond, Library, October08 . You can follow any responses to this entry through the RSS 2.0. Feel free to leave a response