สุดยอดนวัตกรรม 3 ระบบ จากไซโก
ไซโก นำโดย ภูริช มหาดำรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด นำสุดยอดนวัตกรรมชิ้นแรก หรือมาสเตอร์ พีซ (Master piece) ที่เป็นต้นตระกูลของนาฬิกาสายพันธุ์คุณภาพ 3 ระบบ ได้แก่ ระบบจักรกลไขลาน, ควอทซ์ และคีเนติก จากพิพิธภัณฑ์ไซโกที่ญี่ปุ่น บินตรงมาเพื่อให้แฟนคลับนาฬิกาพันธุ์แท้ได้ยลโฉมกันในงาน Bangkok World Watch ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 27 พ.ย.-15 ธ.ค. นี้ ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางกะปิ
ในปี คศ.1913 หรือ 95 ปีที่แล้ว นาฬิกาข้อมือเรือนแรกของญี่ปุ่นใน ระบบจักรกลไขลาน (Mechanical System) ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยใช้ชื่อในขณะนั้นว่า Laurel ซึ่งทุกชิ้นส่วนของนาฬิกาเรือนนี้ผลิตขึ้นจากโรงงานเดียวกัน นำความภาคภูมิใจมาให้ชาวอาทิตย์อุทัยเป็นอย่างยิ่งที่สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้ ซึ่ง Laurel นี้ เป็นนาฬิการะบบจักรกลไขลาน ที่ให้ความเที่ยงตรงและแม่นยำที่สุดในช่วงเวลานั้น ซึ่งปัจจุบัน ไซโก ได้นำเทคโนโลยีต้นแบบนี้ มาพัฒนาเป็นนาฬิการุ่นต่างๆ ซึ่งรวมถึง ไซโก The Prince Monster เจ้าชายอสูรแห่งท้องทะเล รุ่นลิมิเต็ด นาฬิกาจักรกลดำน้ำอัตโนมัติรูปทรงสปอร์ต โดดเด่นด้วยตัวเรือนสีพิงค์โกลด์ สีแปลกตา ให้ความรู้สึกดุดันและเข้มแข็ง ผลิตออกมาจำนวนจำกัดเพียง 1,666 เรือนทั่วโลก และมีจำหน่ายในงานนี้เพียงแค่ 80 เรือนเท่านั้น ขอบหน้าปัดด้านในสามารถหมุนเพื่อแสดงทิศทางเสมือนมีเข็มทิศติดตัว กันน้ำได้ลึกถึง 200 ม. ถือเป็นนาฬิการุ่นเหลนที่เป็นเครือญาติใกล้ชิดของ Laurel ก็ว่าได้ ราคาจำหน่าย 23,666 บาท
หลังจากที่ชาวโลกได้ชื่นชมกับความสำเร็จของเทคโนโลยีระบบจักรกลไขลานมาระยะหนึ่ง ไซโก ได้ผลิตนาฬิกาข้อมือ ระบบควอทซ์ (Quartz) เรือนแรกของโลก เพื่อยืนยันความก้าวล้ำของเทคโนโลยีอีกครั้ง ภายใต้ชื่อ Astron ซึ่งราคาในขณะนั้นสูงเทียบเท่ารถยนต์ 1 คัน เพราะตัวเรือนทำด้วยทองคำแท้ ซึ่งระบบควอทซ์นี้เองยังเป็นต้นแบบของอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ในปัจจุบัน เช่น คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
นาฬิกาไซโกรุ่นล่าสุดที่ได้นำเทคโนโลยีระบบควอทซ์มาพัฒนาได้อย่างเหนือชั้น คือ ไซโก Sportura Double Chronograph สามารถจับเวลาได้นานต่อเนื่องถึง 100 นาที ด้วยระบบ Fly Back หน้าปัดจำลองแบบรถแข่ง Formula 1 ราคาจำหน่ายที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย 22,200 บาท
และอีกหนึ่งเทคโนโลยีของไซโก ที่สร้างปรากฏการณ์ให้วงการนาฬิกาโลกได้ตื่นตะลึง คือ ระบบคีเนติก (Kinetic) ที่แปรพลังงานเคลื่อนไหวของร่างกายให้เป็นพลังขับเคลื่อนนาฬิกา โดยไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ซึ่งไซโกเป็นเจ้าแรกที่ได้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ตั้งแต่ปี 1988 ภายใต้ชื่อรุ่น A.G.S. ซึ่งเคล็ดลับของระบบนี้คือการนำระบบการทำงานของระบบจักรกลไขลาน มาผสมผสานกับความเที่ยงตรงของระบบควอทซ์ จนถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของไซโก ซึ่งเลือดใหม่ที่สืบทอดความล้ำหน้าของเทคโนโลยีระบบคีเนติกในรุ่นปัจจุบันคือ ไซโก Arctura Ultimate Kinetic Chronograph Limited Edition โดดเด่นด้วยดีไซน์โค้งธรรมชาติ (The art of arch) แสดงฟังก์ชั่นการบอกเวลาและจับเวลาด้วย 5 หน้าปัดย่อย วางจำหน่ายเพียง 21 เรือนในประเทศไทย จากจำนวนการผลิตที่จำกัดเพียง 500 เรือนทั่วโลก ด้วยราคาสมน้ำสมเนื้อ 170,000 บาท
เพื่อเป็นการยืนยันในความสำเร็จของไซโก คนไทยมีโอกาสได้ร่วมสัมผัสกับ ตัวแม่ ของเทคโนโลยีชั้นสูงของระบบนาฬิกาประเภทต่างๆ แล้ว โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น ทั้งระบบจักรกลไขลาน (Mechanical), ระบบควอทซ์ (Quartz) และระบบคีเนติก (Kinetic) ที่บินลัดฟ้าข้ามน้ำข้ามทะเลมาโชว์สมรรถนะและความล้ำยุคของโลกกาลเวลาเมื่อครั้งอดีต ในงาน Bangkok World Watch ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 27พ.ย.-15 ธ.ค. นี้ ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางกะปิ นอกจากนี้ ทางไซโก ยังได้นำภาพถ่ายที่ชนะเลิศการประกวด ดอกไม้ไฟแห่งความจงรักภักดี 80 พรรษามหาราชา มาจัดเป็นนิทรรศการขนาดย่อม เพื่อให้ผู้สนใจได้ชื่นชมกับความตระการตาของดอกไม้ไฟที่ไซโกจัดขึ้น เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา พร้อมๆไปกับการเลือกหาประดิษฐกรรมเรือนเวลาคอลเลคชั่นล่าสุดจากไซโกอีกหลากหลายรุ่น ที่ผ่านการพัฒนามาจากคุณสมบัติโดดเด่นของระบบต่างๆ ทั้ง 3 ระบบ จนกระทั่งได้ชื่อว่า เที่ยงตรง ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นก็คือคำว่า ไซโก นั่นเอง นอกจากนี้ความหรูหรางามล้ำค่าของนาฬิการุ่นต่างๆในวันนี้ยังอาจมีค่าสูงขึ้นไปอีกในอนาคตก็เป็นได้
ข้อมูลจาก บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด
เดือนก่อน ก็ได้มีโอกาสไปฟัง คนของเซโก มาพูด (คนญี่ปุนเรียกเซโก) ฟังแล้วทึ่งคนญีปุ่นมากเลย เค้าบอกว่า เซโก เป็นสัญลักษณ์แห่งความผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี และความเป็นญี่ปุ่น ไม่มีใครสู้ได้ แต่ดูพรีเซนต์ขั้นตอนการพัฒนานาฬิกาของเค้าแล้ว นับถือคนญีปุ่นจริงๆ..poy
มันเป็นนาฬิกาที่คุ้มค่ามากกับราคา แบบว่าดูสมเหตุสมผล ถ้าเทียบแบรนด์อื่นๆที่ออปชั่นเพียบเหมือนกัน แต่ตั้งราคาบ้าเลือด ขณะที่หลายๆแบรนด์จะเน้นหน้าตาและดีไซน์ให้ดูหรูหราเข้าไว้ แต่ไซโกโฟกัสที่เทคโนโลยี ดีไซน์ไม่หวือหวา ใช้งานได้ตลอดกาล คอนเซปส์ชัดเจนมั่กๆ