How to buy a watch?
นาฬิกาเรือนต่อไปจะเป็นอะไรดี
จุดเริ่มต้นของความคิดที่จะเริ่มสะสมนาฬิกาดีๆ ไว้เป็นคอลเลกชั่นส่วนตัวนั้น เขาเริ่มกันอย่างไร เราได้รวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์กันถึงไอเดียต่างๆ จากผู้มีประสบการณ์ในวงการนาฬิกาให้ได้เป็นเกร็ดความรู้คร่าวๆ เอาไว้ศึกษาเป็นไอเดียก่อนที่จะตัดสินใจลองผิดลองถูกกับการเลือกซื้อหา นาฬิกามาเป็นเจ้าของกันสักเรือน
สำหรับก้าวแรกซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการเลือกซื้อนาฬิกาก็คือ การเริ่มต้นค้นหาความชอบของตัวเองให้เจอเสียก่อน โดยสอบถามตัวเองก่อนว่าความชอบของเรานั้น เป็นความชอบในรูปแบบไหน เป็นความชอบผลงานในรูปแบบที่เน้นนวัตกรรมล้ำสมัยในเชิงเทคนิค หรือรูปแบบเชิงศิลป์ที่เน้นดีไซน์ร่วมสมัย เพราะคุณลักษณะของนาฬิกาแต่ละแบรนด์ แต่ละเรือน ก็มักจะมีเอกลักษณ์หรือจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ถ้าเราค้นหาความชอบของตัวเองได้ การจะเลือกซื้อนาฬิกาสักเรือนก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ปัจจัยต่อมาที่เป็นส่วนประกอบในการเลือกซื้อนาฬิกาสักเรือนก็คือ คุณ ต้องทราบว่านาฬิกาเรือนนี้คุณต้องการซื้อมาเพื่อใช้งานจริงๆ ซื้อมาเพื่อสะสม เพื่อเก็งกำไร หรือเพื่อการลงทุน
เมื่อคุณพบคำตอบให้กับตัวเองแล้วว่าคุณต้องการซื้อมาเพื่อการใช้งานอย่างแท้จริง ดังนั้น เราจะมาวิเคราะห์กันถึงแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน อันได้แก่ ความเที่ยงตรง ความทนทาน ความสะดวกในการใช้งาน และการซ่อมแซม
1 ความเที่ยงตรง
แน่นอนว่านาฬิกาควอตซ์ย่อมมีความเที่ยงตรงกว่านาฬิกาจักรกลหลายเท่านัก จะสังเกตได้ว่าหน่วยวัดความคลาดเคลื่อนของกลไกระบบควอตซ์นั้นจะวัดค่ากันเป็นวินาทีต่อเดือน หรือต่อปี (ถ้ากลไกควอตซ์ชุดนั้นมีความเที่ยงตรงสูงมาก) แต่สำหรับนาฬิกาจักรกลแล้ว โดยส่วนใหญ่เราจะวัดค่าความคลาดเคลื่อนกันเป็นวินาทีต่อวัน ดังนั้น แม้ว่าจะเป็นนาฬิกาจักรกลที่ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ ก็ยังรักษาความเที่ยงตรงได้ไม่ดีเท่านาฬิกาควอตซ์ซึ่งมีราคาถูกกว่า อันที่จริงแล้ว การที่คุณต้องควักกระเป๋าจ่ายให้กับนาฬิกาจักรกลในราคาที่แพงกว่านั้น ก็มีสาเหตุมาจากความยากในกระบวนการผลิตที่คุณๆ หลายท่านคงจะยอมจ่ายให้กับเรือนเวลาแห่งศิลป์กันอย่างแน่นอน
2 ความทนทาน
เนื่องจากแต่ละบุคคลมักจะมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป ดังนั้น การใช้งานของแต่ละคนก็ย่อมต่างกัน แต่ในหลักทฤษฎีทั่วไปแล้วนาฬิกาควอตซ์นั้นจะมีความทนทานต่อสภาพการใช้งานมากกว่านาฬิกาจักรกล ด้วยเพราะตัวเครื่องภายในระบบควอตซ์นั้นไม่มีอะไรที่ซับซ้อนเท่ากับกลไกภายในนาฬิกาจักรกล จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมนาฬิกาจักรกลจึงมีราคาแพงกว่านาฬิกาควอตซ์หลายเท่าตัวนัก
3 ความสะดวกในการใช้งาน
แน่นอนว่าถ้าพูดถึงในแง่ของความสะดวกแล้ว นาฬิการะบบควอตซ์ย่อมกินขาด เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราหยิบมาใส่ เราสามารถใส่ออกไปข้างนอกได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลาปรับ ตั้งค่าใหม่ทุกครั้ง ต่างจากนาฬิกาจักรกล ซึ่งหากบางเรือนไม่สามารถสะสมพลังงานสำรองได้นานพอที่เราจะวางนาฬิกาไว้เฉยๆ ตลอดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์แล้วละก็ บอกได้เลยว่าเช้าวันจันทร์คุณต้องมาเสียเวลาจูนนาฬิกาบนข้อมือของคุณใหม่ (เว้นเสียแต่ว่าวันหยุดเสาร์-อาทิตย์คุณจะหยิบมาใส่อยู่บ้านด้วย) เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า นาฬิกาจักรกลเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยพลังงานจากการเคลื่อนไหวข้อมือของเราเพื่อขับเคลื่อนกลไกภายในของตัวเอง
4 การซ่อมแซม
หากพิจารณาถึงการซ่อมแซมแล้ว สำหรับอะไหล่ของนาฬิกาควอตซ์นั้นก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่หมดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ตัวนั้นเราก็ต้องเปลี่ยน แต่ประเด็นสำคัญก็คือ คุณต้องไม่ปล่อยทิ้งไว้นานเป็นปีๆ เพราะเมื่อแบตเตอรี่เหล่านั้นถูกเก็บไว้นานจะเริ่มมีปฏิกิริยา ทำให้ตัวเครื่องกลไกภายในของนาฬิกาแสนรักของคุณเสียหายได้ หรือถึงขั้นเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเพียงแค่ใส่ใจกับระยะเวลาที่แบตเตอรี่จะหมด เพื่อเปลี่ยนใหม่ได้ทันเวลา เท่านี้นาฬิกาของคุณก็สามารถใช้งานได้นานเฉกเช่นนาฬิกาจักรกลเลยทีเดียว
อะไรคือความต่างระหว่างนาฬิกาไขลานและนาฬิกาออโตเมติก นาฬิกาไขลาน (Manual Winding) จะต้องขึ้นลานผ่านการหมุนด้วยมือทางเม็ดมะยม เพื่อให้นาฬิกามีพลังงานสำรองสำหรับใช้ในการขับเคลื่อนกลไก ส่วนนาฬิกาออโตเมติกนั้นคือ นาฬิกาที่มีกลไกขึ้นลานได้ด้วยตัวเอง (Self-winding)อยู่ภายในตัวเครื่อง เราไม่จำเป็นต้องไขลานผ่านทางเม็ดมะยมอีก ซึ่งระบบออโตเมติกนี้ ก็เปรียบเสมือนการต่อยอดของวิวัฒนาการในการพัฒนาและคิดค้นจากช่างนาฬิกา เพื่อต้องการช่วยลดปัญหาที่จะต้องมาเสียเวลาไขลานทุกวัน ทุกครั้งที่หยิบมาใส่ ทั้งนี้ผู้ผลิตบางรายยังออกแบบชุดไขลานแบบเดิมมาไว้ที่เม็ดมะยมด้วย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถขึ้นลานด้วยมือเพื่อรักษาพลังงานสำรองไว้ในขณะที่ไม่ได้สวมใส่นาฬิกา |
ข้อมูลและภาพประกอบ 247 Free Magazine