Loading
250x250 Free Watch

สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารทางอีเมล์:

กรุณาตรวจสอบอีเมล์เพื่อยืนยันหลังจากทำการสมัคร

โพสล่าสุด

แบ่งปัน
|

พลอยประจำเดือนเกิด มิถุนายน – มุก (Pearl)

ภาพจาก www.goldndiamondsslc.com มุก (pearl) อัญมณีแห่งความบริสุทธิ์ที่สตรีทั่วโลกหลงใหล ตามตำนานในคัมภีร์พระเวทบันทึกไว้ว่ามุกเกิดจากฟันของอสูรวลาที่ร่วงหล่นลงมาบนโลกมนุษย์แล้วหลุดเข้าไปอยู่ในเปลือกหอยมุกทำให้เกิดมุกขึ้น แต่แท้จริงแล้วมุกเกิดจากการที่มีเม็ดทรายหรือสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปในตัวหอยมุก เมื่อหอยมุกเกิดความระคายเคืองจึงต้องขับ “ชั้นมุก ” (Narce) ซึ่งประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) ออกมาเคลือบสิ่งปลอมนั้นและทำให้มีความแวววาว ยิ่งหอยมุกขับชั้นมุกออกมาเคลือบนานเท่าไร สิ่งแปลกปลอมก็จะยิ่งมีความแวววาวและความงดงามมากขึ้นเท่านั้น

สมบัติของมุก
ความแข็ง 2.5 - 3.5 เนื้ออ่อนกว่าแก้วแต่บดให้แตกเป็นผงค่อนข้างยากเนื่องจากมุกมีการจับตัวที่แน่นมาก
องค์ประกอบทางเคมี Calcium Cabonate (CaCO3) 80 % ซึ่งปกติจะเป็นแร่ Aragonite, Conchiolin 10 - 14 % และน้ำ 2 - 4 %
ค่าดัชนีหักเห 1.53 - 1.69
ความวาว วาวแบบมุก (Pearly luster) หรือ Orient
สี มุกไม่ได้มีเพียงแค่สีขาวเท่านั้น ยังมีสีเหลือง สีชมพู และสีดำ แต่ไม่ว่ามุกจะมีสีใด ลักษณะของมุกที่ดีควรมีทรงกลม แวววาว และสะอาด

กระบวนการเกิดและแหล่งที่พบมุก
มุกเกิดในเนื้อของหอยมุกซึ่งเป็นหอยสองฝามีทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม โดยมุกที่เกิดตามธรรมชาติจะเกิดจากการที่มีเม็ดทรายขนาดเล็กหรือเศษสิ่งแปลกปลอมขนาดเล็กถูกพัดพาเข้าไปภายในตัวหอยมุกแล้วทำให้ตัวหอยมุกเกิดความระคายเคืองจนหลั่งสารที่เป็นชั้นมุกที่เรียกว่า Nacre ออกมาเคลือบสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้น ยิ่งชั้นมุกมีความหนามาก มุกก็จะมีความวาวมาก
มุกแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ มุกธรรมชาติ (Natural Pearl) และมุกเลี้ยง (Cultured Pearl) ในกรณีของมุกเลี้ยงน้ำเค็ม สิ่งที่ทำให้เกิดความระคายเคืองในหอยมุกได้แก่ ลูกปัดกลม ๆ (Bead) ที่ทำจากเปลือกหอย (Shell) ส่วนมุกเลี้ยงน้ำจืด จะใช้เนื้อเยื่อจากหอยมุกเอง (Mantle tissue) ใส่เข้าไปแทนลูกปัดเพราะหอยมุกน้ำจืดตัวเล็กกว่าหอยมุกน้ำเค็ม จึงทำให้มุกเลี้ยงน้ำจืดมีรูปร่างไม่กลมเท่าที่ควรจะไปถึงบิดเบี้ยวเล็กน้อย (Baroque) วิธีการเลี้ยงหอยมุกนี้พัฒนาขึ้นโดยโคคิจิ มิกิโมโตะ (Kokichi Mikimoto) เมื่อ ค . ศ . 1893
แหล่งมุกที่สำคัญได้แก่ เปอร์เชีย อเมริกากลาง และ ออสเตรเลียเหนือ ส่วนมุกเลี้ยงนั้นมีมากแถบญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เกาะตาฮิติ และเกาะหมู่เกาะอื่น ๆ ในแถบทะเลใต้ โดยปกติไข่มุกเลี้ยงจะมีขนาดโตได้ประมาณ 9 - 15 มิลลิเมตรมีสีเหลือง ทอง ขาว เงิน ดำ เป็นต้น ในประเทศไทยก็มีฟาร์มเลี้ยงมุกในจังหวัดภูเก็ต พังงา ระนอง สุราษฎร์ธานี และกาญจนบุรี

ภาพจาก www.alvr.com ตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับมุก
เชื่อกันว่ามีการค้นพบไข่มุกครั้งแรกในบริเวณตะวันออกกลาง พระนางคลีโอพัตราทรงใช้ตุ้มหูมุกเป็นเครื่องประดับ และมักจะจุ่มตุ้มหูมุกลงไปในเหล้าองุ่นก่อนดื่ม เพราะเชื่อว่าไข่มุกมีพลังช่วยคงความหนุ่มสาวเอาไว้ได้ นแกจากนี้ กวีชาวกรีกนามว่า โฮเมอร์ ซึ่งเป็นกวีในยุคเมื่อ 1,200 – 850 ปีก่อนคริสตศักราชได้กล่าวถึงการใช้ไข่มุกเป็นเครื่องประดับของเทพธิดายูโนไว้ในวรรณกรรมของเขาด้วย หญิงสาวชาวโรมันก็นิยมสวมใส่ไข่มุกเช่นเดียวกัน ส่วนชาวจีนในสมัยก่อนใช้ไข่มุกเป็นเครื่องบอกยศถาบรรดาศักดิ์

มุกเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ด้วยสีอันนุ่มนวลงดงามของอัญมณีชนิดนี้ เมื่อหญิงสาวนำมาใส่จึงช่วยกระตุ้นให้ความเป็นกุลสตรีเด่นชัดขึ้น ทำให้เกิดความนุ่มนวลอ่อนหวาน นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าหากวางไข่มุกไว้ใต้หมอนจะช่วยให้คู่สามีภรรยาที่ไม่มีบุตรได้มีบุตรสมหวัง ทางด้านการบำบัดรักษา ไข่มุกเป็นอัญมณีธาตุน้ำ จึงเชื่อกันว่าไข่มุกมีพลังช่วยลดไข้หรือโรคที่เกิดจากความร้อน ช่วยบำบัดอาการของคนที่เป็นโรคไต หอบหืด เสมหะ และระบบทางเดินหายใจไม่ปกติ
ในด้านของการประดับตกแต่ง นอกจากมุกแล้ว เรายังนิยมนำอัญมณีประเภทมุกดาหาร มาใช้แทนได้ด้วยเช่นกัน

การดูแลรักษาเครื่องประดับมุก
เนื่องจากมุกเป็นอัญมณีอินทรีย์ จึงควรพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนกรด น้ำหอม สบู่ ครีมทาผิว หรือสเปรย์ใส่ผม เพราะอาจทำให้สีของมุกเปลี่ยนไป

 

ข้อมูลจาก GIT, SGS
ภาพประกอบ www.goldndiamondsslc.com, www.alvr.com

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

Clean and Care – Pearl Jewelry
Pearl Buying Guide - การเลือกซื้อมุก
ชนิดและประเภทของมุก

Posted by NonNY~* on 7/08/2552. Filed under , , , , , . You can follow any responses to this entry through the RSS 2.0. Feel free to leave a response

0 comments for "พลอยประจำเดือนเกิด มิถุนายน – มุก (Pearl)"

Leave a reply

เชิญร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ความคิดเห็นล่าสุด

บทความล่าสุด