Loading
250x250 Free Watch

สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารทางอีเมล์:

กรุณาตรวจสอบอีเมล์เพื่อยืนยันหลังจากทำการสมัคร

โพสล่าสุด

แบ่งปัน

ทำอย่างไร...เมื่อแพ้เครื่องประดับโลหะ

เคยสังเกตบ้างหรือไม่ว่าบางครั้งหลังจากการใส่เครื่องประดับ มักจะทิ้งร่องรอยเป็นคราบสีเขียวหรือดำไว้บนผิว คราบเหล่านี้ไม่ได้บ่งบอกว่าเราแพ้โลหะเสมอไป แต่เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นระหว่างโลหะกับผิวหนัง โดยเฉพาะเมื่อเครื่องประดับสัมผัสกับผิวหนังที่มีเหงื่อ

เครื่องประดับทองแดง
ทองแดงจะเกิดปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดคราบสีเขียว เครื่องประดับที่คุณใส่อาจจะไม่ใช่ทองแดงร้อยเปอร์เซนต์ แต่ก็อาจมีทองแดงมากพอที่จะทำให้เกิดปฏิกิริยานี้ขึ้น และในบางคนก็อาจเกิดอาการแพ้โลหะทองแดงซึ่งจะแสดงอาการให้เห็นจากผื่นหรือปื้นแดง

เครื่องประดับเงิน

เครื่องประดับเงินหรือ sterling silver จะประกอบด้วยทองแดง 7.5% แต่คราบที่เกิดขึ้นมักจะเป็นสีดำ นอกจากจะเกิดขึ้นเวลาสวมใส่แล้ว ยังพบได้บ่อยเมื่อทิ้งเครื่องประดับเงินไว้ให้สัมผัสอากาศ เครื่องประดับเงินจะเกิดความหมอง ซึ่งโดยทั่วไปสามารถป้องกันได้โดยการเคลือบหรือชุบด้วยสารที่ช่วยป้องกันความหมอง แต่ก็สามารถหลุดลอกได้เมื่อใส่ไปนานๆ

เครื่องประดับทอง

ทองคำเป็นโลหะที่ไม่ทำปฏิกิริยากับผิวหนัง แต่คราบที่เกิดขึ้นนั้นอาจมาจากทองแดง นิกเกิล หรือเงินที่ผสมลงไปเพื่อให้เครื่องประดับทองมีความแข็งแรงและสามารถขึ้นรูปเป็นชิ้นงานได้ง่าย  เครื่องประดับทองจะอยู่ในรูปของทองเค ซึ่งตัวเลขที่อยู่หน้า K (Karat) นั้น มีความหมายถึง สัดส่วนของทองคำ ยิ่งตัวเลขน้อยเท่าใด ก็แสดงว่ามีทองคำผสมอยู่น้อย และมีโลหะอื่นๆอยู่มาก สำหรับบางคนอาจจะไม่เกิดอาการแพ้หรือมีคราบที่เกิดจากปฏิกิริยาของโลหะกับผิวหนัง แม้ว่าจะใส่เครื่องประดับทองแค่ 10K ก็ตาม แต่บางคนแม้จะใส่ 18K ก็ยังคงมีอาการอยู่

เครื่องประดับนิกเกิล

สำหรับผู้ที่แพ้โลหะนิกเกิล จะไม่เกิดคราบสีบนผิว แต่จะมีอาการคันและแดงบริเวณที่เครื่องประดับสัมผัสกับผิว

 

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดคราบสีและอาการแพ้โลหะ
- เปลี่ยนไปใช้เครื่องประดับที่มีส่วนผสมของทองคำมากขึ้น เช่น 18K
- แพลตินัมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะไม่มีทางทำให้เกิดอาการแพ้ แต่ก็มีราคาที่สูงมาก
- แจ้งให้ทางร้านทราบว่าคุณต้องการให้ชุบหรือเคลือบเครื่องประดับเพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรงของโลหะกับผิว
- วิธีการง่ายๆที่สามารถทำได้เองก็คือ ใช้น้ำยาเคลือบเล็บป้ายบริเวณที่เครื่องประดับสัมผัสกับผิว
- หากเลือกซื้อ body jewelry ควรเลือกชนิดที่เป็นสแตนเลส
- ไทเทเนียมเป็นอีกทางหนึ่งสำหรับผู้ทีแพ้โลหะ และไทเทเนียมก็ไม่ทำให้เกิดคราบสีด้วย
- จิวเวลรี่บางประเภทจะระบุว่า hypo-allergenic ซึ่งทำเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่แพ้ง่าย
- พยายามอย่าให้เหงื่อออกเมื่อสวมใส่เครื่องประดับ
- ดูแลรักษาเครื่องประดับให้สะอาดและปราศจากคราบหมอง

อ้างอิง : About.com

 

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
Why Platinum?

11/19/2551 | Posted in , , , , , , , , | Read More »

GeoThai.net - There is a Geologist in Everyone

GeoThai.net

ธรณีศาสตร์ ธรณีวิทยา ธรณีวิศวกรรม ธรณีฟิสิกส์ ฯลฯ อาจจะเป็นคำที่เราคุ้นเคย หรือหลายคนแทบจะนึกไม่ออก ทั้งๆ ที่ธรณีไม่ใช่เรื่องใหม่ เรารับรู้และคุ้นเคยกับมันมาตั้งแต่เกิด การเรียนธรณีเป็นเรื่องที่สำคัญ ตราบเท่าที่เรายังต้องอาศัยอยู่บนโลกแห่งนี้ เราจะอยู่กันอย่างไรหากไม่มีศาสตร์ทางธรณี นี่แหละคือเหตุผลที่..ทำไมต้องธรณี?

โปรยหัวเรื่องมาให้น่าติดตามซะขนาดนี้ คงต้องคลิกเข้าไปเยี่ยมชมเวบไซต์ GeoThai.net แหล่งความรู้ทางธรณีที่จัดทำขึ้นโดยกลุ่มนักธรณีวิทยาไทย ให้สาระความรู้ทางธรณีที่เข้าใจง่าย ภาพประกอบสวยงาม ...แล้วจะพบคำตอบว่า ทำไมต้องธรณี?

11/18/2551 | Posted in , , , , | Read More »

เพชรสีกับการลงทุน

เพชรสี” มาแรงมากเนื่องจากเทรนด์ของโลกส่วนใหญ่จะเน้นสีสันมากกว่าความเรียบ เนื่องจากเพชรสีเป็นความต้องการของตลาดอย่างมาก ราคาของมันจึงขยับและเพิ่มขึ้นตามกลไกของ Demand/Supply

และก็เป็นธรรมดาของบรรดาเศรษฐีนักธุรกิจ เมื่อเงินทองที่หลั่งไหลเข้าสู่บัญชีเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว ก็ต้องนำเงินที่ได้มาไปลงทุนทางอื่น ดังนั้น จะเห็นว่าตอนนี้ทั้งหุ้น พันธบัตร กองทุนต่างๆ ถูกกว้านซื้อเก็บเพื่อเก็งกำไรกันอย่างคึกคัก ส่วนเศรษฐีที่มีรสนิยมสูงบางประเภทก็ชอบซื้อทองคำ นาฬิกา งานศิลปะ ของโบราณ ไวน์ชั้นเยี่ยม ไปจนถึงสโมสรฟุตบอล ต่างถูกซื้อโดยตัวแทนของอัครมหาเศรษฐีที่มีเงินมากมายจนแทบจะซื้อโลกใบนี้ไว้จนหมดสิ้น และแน่นอนที่สุดว่า วัตถุอันล้ำค่าอีกชนิดหนึ่ง ต่างถูกกว้านซื้อจนแทบไม่เหลือเช่นกัน นั่นก็คือเพชรสีขาวสะอาด รูปทรงดี มีใบรับรองคุณภาพ ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 4 กะรัตขึ้นไป

ในตอนนี้วงการค้าเพชรพลอยต่างพากันส่งตัวแทนไปเสาะแสวงหาเพชรงามน้ำดี ไว้คอยตอบสนองความต้องการของลูกค้ากระเป๋าหนัก แต่เพชรน้ำงามขนาดนั้นใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ เพราะในจำนวนเพชรรุ่นใหม่ที่ออกสู่ท้องตลาดนั้น จะหาเพชรที่งดงามบริสุทธิ์ไร้มลทินตามใบสั่งนั้นมีปริมาณที่น้อยเหลือเกิน ขณะเดียวกัน บรรดาร้านเพชรที่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Tiffany’s, Cartier,Harry Winston,Van Cliff & Arpel และ Bulgari เป็นต้น ต่างก็ขานรับกับกระแสในตอนนี้ด้วยการนำเพชรสีขนาดต่างๆ มาออกแบบเป็นเครื่องเพชรชุดใหญ่อลังการ เพื่อเอาใจลูกค้ากระเป๋าหนักที่ทุ่มไม่อั้นเพื่อจับจองเป็นเจ้าของ

ยิ่งเป็นเพชรสีที่สดใส ขนาดใหญ่ สีสะอาด ทรงแปลกตาไม่ซ้ำใคร ก็ยิ่งดูจะเป็นที่ต้องการของลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ แถมถ้าหากเป็นเครื่องประดับที่ครบชุด ตั้งแต่ ต่างหู สร้อยคอ เข็มกลัด สร้อยข้อมือ แหวน ด้วยแล้ว บรรดาลูกค้ากระเป๋าหนักยิ่งล้วนต้องการเป็นเจ้าของกันทั้งนั้นไม่เกี่ยงราคากันเลย เพราะหากตนไม่ซื้อเครื่องเพชรเหล่านี้ก็จะมีผู้รอซื้อในทันทีอยู่แล้ว ยิ่งเป็นเครื่องเพชรที่มีใบรับรองจากผู้ผลิตชื่อก้องเหล่านี้แล้ว ก็มั่นใจได้ว่าราคาไม่มีวันน้อยกว่าราคาที่ซื้อไปแน่นอน และนับวันมีแต่ราคาที่จะเพิ่มพุ่งตามราคาน้ำมันทั้งสิ้น

เพชรสีที่เป็นที่ต้องการที่สุดเห็นจะได้แก่ "เพชรสีชมพู" ที่แลดูสีสันสวยงาม อ่อนโยน เข้าได้กับผิวของสตรีผิวขาว หรือเหลือนวลเช่นผิวของสตรีชาวตะวันตก ตะวันออกกลาง และเอเชีย หรือจะเป็น "เพชรสีเหลืองสดใส" ที่เรียกกันว่าสี canary ที่เล่นไฟได้ดีเยี่ยมกว่าสีใดๆ ทั้งยังมีประกายที่ระยิบระยับกว่าเพชรสีอื่นๆ อีกด้วย
ส่วน "เพชรสีฟ้า" ที่ไล่สีจากฟ้าอ่อนจางๆ ไปถึงฟ้าเข้มและน้ำเงิน ก็เป็นเพชรที่หายากชนิดหนึ่ง เพราะจากกิตติศัพท์ของเพชร Hope ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเพชรที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ของราชวงศ์บุร์บ็องของฝรั่งเศสประดับพระองค์จวบจนวาระสุดท้าย จากนั้นได้ถูกนำมาเจียระไนแปลงโฉมเสียใหม่และนำข้ามมหาสมุทรไปสู่อเมริกาในศตวรรษต่อมา
นอกจากนั้นยังมี "เพชรสีเขียว" ที่เขียวสดสราวกับใบไม้ในฤดูใบไม้ผลิ เพชรสีเขียวใสนี้เป็นที่ต้องการของชาวอภิมหาเศรษฐีมุสลิมผู้มั่งคั่ง เช่นเดียวกับมรกตเม็ดงาม ด้วยเป็นสีตัวแทนแห่งพระผู้เป็นเจ้าที่เคารพนับถือ หากแต่เพชรสีเขียวที่มีจำนวนมากที่สุด กลับเป็นเพชรที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ของเมืองเดรสเดน อดีตเมืองหลวงขอวแคว้นแซ็กโซนี เคยเป็นเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรปรัสเซียเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในยุคต่อมา


"เพชรสีน้ำตาลอมเหลืองสีอ่อนใส" ที่เรียกกันว่าสีแชมเปญไล่ความเข้มจนถึงมีน้ำตาลเข้มที่เรียกว่าสีโค้ก และเพชรสีดำ กำลังเป็นที่นิยมของนักออกแบบเครื่องเพชรรุ่นใหม่ ที่ไม่ให้ความสำคัญของขนาดที่ต้องมีน้ำหนักขนาดเป็นกะรัตขึ้นไป "เพชรสีแดง" ที่มีสีเจิดจ้าราวกับเลือดนก จะมีขนาดใหญ่เป็นเพชรลูกแบบเพชรสีขาวนั้นหาได้ไม่ง่ายนัก คงมีแต่เพียงเป็นเพชรขนาดเล็กๆ ที่มีน้ำหนักไม่ถึงกะรัต  หากแต่เพชรเม็ดเล็กๆ เหล่านี้ เมื่อถูกนำมารวบรวมเข้าด้วยกันเป็นปริมาณที่มากพอสมควร ก็สามารถนำมาออกแบบเป็นเครื่องประดับที่มีความแปลกตา ประกอบกับโลหะที่มีการใช้ความรู้ทางด้านเคมี ปรุงให้เป็นโลหะที่มีสีสันที่แปลกไปกว่าเดิม ที่มิใช่เพียงทองคำสีเหลือง หรือทองคำขาว แพลทินัม ที่มีสีเกลี้ยงๆ เพียงช่วยส่งเสริมให้เพชรดูเด่นขึ้นเท่านั้น เครื่องประดับรุ่นใหม่นี้เมื่อนำมาสวมใส่กับเสื้อผ้าแปลกๆ ใหม่ๆ อันเป็นแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงไปตายยุคโลกาภิวัฒน์ ก็แลดูโดดเด่นไม่ซ้ำใคร เป็นที่ต้องการของผู้มีฐานะรุ่นใหม่ ที่มองเห็นเครื่องเพชรรุ่นเก่าเป็นสิ่งล้าสมัย ควรเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น
"เพชรสี" จึงเป็นวัตถุที่ถูกจับตามองจากนักลงทุนรุ่นใหม่ ที่ทุ่มซื้อเพชรเหล่านี้อย่างไม่อั้น เพราะรู้ดีว่การซื้อเงินตราของสกุลต่างๆ หรือการลงทุนแบบเดิมๆ เก็บไว้ ไม่ใช่เรื่องที่น่าลงทุนเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป


ที่มา: หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
เพชร

11/18/2551 | Posted in , , , , | Read More »

Pearl Buying Guide - การเลือกซื้อมุก

ในปัจจุบันมุกได้รับความนิยมอย่างสูงเนื่องด้วยความมีเสน่ห์ในตัวเองที่ดูอ่อนหวาน อบอุ่นและสามารถนำมาทำเครื่องประดับที่สวยงามไม่แพ้รัตนชาติชนิดอื่นๆ  มุกสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทคือ มุกธรรมชาติ มุกเลี้ยง และมุกเทียม ซึ่ง 2 ประเภทแรกถือเป็นไข่มุกแท้แต่แตกต่างกันที่แหล่งกำเนิด สำหรับไข่มุกเทียมถูกทำขึ้นจากการหล่อพลาสติกและเลียนแบบสีตามไข่มุกตามธรรมชาติ ฉะนั้นการเลือกซื้อมุกควรพิจารณาสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้

ขนาดและรูปร่าง เป็นสิ่งแรกสุดในการพิจารณาเพราะหากคุณทราบว่ามุกที่ต้องการที่มีขนาดและรูปร่างอย่างไรคุณก็จะสามารถเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่ที่การออกแบบเครื่องประดับที่จะทำออกมาด้วยว่าเหมาะสมกับรูปร่างของมุกที่เลือกใช้หรือไม่ เช่น ต้องการทำเข็มกลัดอาจเลือกมุกที่เม็ดใหญ่ น้ำงาม หรือการทำสร้อยคอควรคัดเลือกมุกที่มีสีสม่ำเสมอและมีขนาดเท่ากันหรือไล่ขนาดกันไปตลอดเส้น ที่สำคัญขนาดของมุกยังมีผลต่อเรื่องของราคาอีกด้วย

สีสัน
สีของมุกจะพิจารณาจาก 2 ส่วนด้วยกัน คือ Body Colour ซึ่งเป็นสีพื้นของมุก มีสีขาว สีครีม สีเหลือง เป็นต้น และ Overtone เป็นสีอื่นๆที่เกิดจากการเลี้ยวเบนและแทรกสอดของแสงผ่านชั้นต่างๆที่ผิวของมุก มีสีเขียว สีชมพู สีเงิน สีฟ้า เป็นต้น โดยสีของมุกจะแปรเปลี่ยนไปตามชนิดของหอยมุกและน้ำที่หอยมุกนั้นอาศัยอยู่ สีของมุกทำให้มุกเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่นำมาทำเป็นเครื่องประดับโดยไม่มีการขัดหรือเจียระไนอย่างอัญมณีชนิดอื่นๆ ทั้งนี้เพื่อคงความงดงามตามธรรมชาติ

ลักษณะเนื้อผิว
เป็นส่วนสำคัญในการเลือกซื้อ มุกที่ดีจะต้องมีผิวเรียบเนียนเป็นมันไม่มีร่องหรือรอยขุรขระ ไม่มีรอยถลอก และไม่เป็นฟองอากาศ เพราะการที่มุกมีผิวไม่เรียบ มีรอยแตกหรือรอยถลอกต่างๆ นั้นอาจทำให้ผิวของไข่มุกหลุดลอกได้ง่าย ดังนั้นการเลือกซื้อจึงควรสังเกตอย่างละเอียด อาจใช้ไฟส่องช่วยในการตรวจโดยใช้พื้นหลังสีดำให้สังเกตขณะหมุนเพื่อตรวจสภาพผิวของมุก

ความมันวาว
มุกที่ดีจะมีเนื้อมันวาวสดใส เปล่งประกายจากเนื้อใน ไร้ความหมองคล้ำ ประกายสม่ำเสมอทั้งเม็ด ส่วนการเหลือบสี(Orient) ของมุกนั้นจะเกิดขึ้นได้ดีถ้ามุกมีชั้นความหนาของมุกมากดังจะเห็นได้จากเมื่อส่องแสงไฟแล้วจะมองเห็นเหลือบสีมากก็แสดงว่าเป็นมุกที่ดี ซึ่งความหนาของชั้นมุกนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเลี้ยงและสภาพแวดล้อมในการเพาะเลี้ยง ทำให้มุกที่มีชั้นหนามากก็จะมีความวาวมันมากตามไปด้วย คุณสามารถทดสอบได้ว่ามุกมีชั้นมุกหนามากเพียงใดด้วยวิธีต่อไปนี้

- ดูลักษณะความวาว ถ้าความวาวสูงแสดงว่ามีชั้นมุกหนา
- ดูรอยแตกที่ผิว ในมุกที่มีชั้นมุกบางจะเห็นลูกปัดอยู่ภายใน
- ใช้แว่นขยายดูบริเวณรูที่เจาะ ถ้ามุกมีชั้นมุกไม่หนา จะเห็นรอยต่อระหว่างส่วนที่เป็น ชั้นมุกกับส่วนของลูกปัด
- สังเกตแถบสี โดยนำมุกส่องกับไฟที่มีความเข้าสูง เช่นไฟสีแดง ถ้าพบแถบขวางในไข่มุกซึ่งเป็นแถบของลูกปัดแสดงว่าชั้นมุกบางมาก


ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ
สิ่งที่ควรระวังที่สุดในการเลือกซื้อก็คือ มุกเทียมเป็นมุกที่ทำจากแก้วหรือพลาสติกหรือสิ่งอื่นๆ ซึ่งมุกเทียมนี้เป็นการทำเทียมหรือเลียนแบบ สามารถตรวจสอบหรือสังเกตได้ง่ายๆ คือ
- สังเกตรอยแตกหรือลักษณะผิวเพราะหากเป็นมุกเทียมมักจะเคลือบสีด้วยแลกเกอร์หรือสารเคลือบอื่นๆ เพื่อเพิ่มความมันวาว
- อาจใช้วิธีการสัมผัสคือการนำมุกแต่ละเม็ดมาถูกันเบาๆ แล้วจับดู หากนำมาถูแล้วไม่รู้สึกสากๆหรือรู้สึกลื่นๆเลย ให้สรุปไว้ก่อนว่าไม่ใช่มุกแท้ สิ่งที่ควรระวังคือควรถูเบาๆ เพราะหากเป็นมุกแท้ผิวมุกอาจสึกหรอจากการเสียดสีของชั้นมุกได้ เนื่องจากมุกเป็นอัญมณีที่เปราะบางมากจึงควรระวังในการทดสอบ
- ใช้ไฟลน เนื่องจากมุกเทียมจะไม่ทนความร้อน เพราะเพียงไฟจากบุหรี่ก็ทำให้เกิดริ้วรอยไหม้หรือแตกกะเทาะได้ง่าย หากเป็นมุกแท้จะทนทานแม้จะเป็นรอยไหม้ก็สามารถเช็ดออกได้
 
มุกถือได้ว่าเป็นเครื่องประดับอมตะที่ไม่มีวันล้าสมัยไปได้ง่ายๆ นอกจากนี้มุกยังให้ภาพที่สวยสง่าแก่ผู้สวมใส่อีกด้วย จากวิธีตรวจสอบง่ายๆ ข้างต้นจะสามารถทำให้คุณสามารถนำไปปรับใช้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไปได้

 

ข้อมูลจาก : สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) , สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

 

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

มุก (Pearl)
Pearl for all ages

 

คู่มือการเลือกซื้อมุก

Pearl Buying Guide: How to Evaluate, Identify and Select Pearls & Pearl Jewelry

11/15/2551 | Posted in , , , | Read More »

มุก (Pearl)

มุก (Pearl) เป็นอัญมณีที่เกิดจากสิ่งมีชีวิต (Organic gemstone) ไข่มุกแต่ละเม็ดจะเกิดจากการที่มีสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปในหอยทั้งฝาเดียวและสองฝา ซึ่งพบได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม เพื่อลดการระคายเคืองจากสิ่งแปลกปลอมนี้ หอยจะปล่อยสารที่มีส่วนประกอบของแคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium Carbonate) ออกมาเคลือบสิ่งแปลกปลอมนั้นเป็นชั้นๆ จนกระทั่งได้เป็นไข่มุกที่แวววาว ส่วนจะมีลักษณะรูปร่างอย่างไรนั้น ขึ้นกับสิ่งแปลกปลอมที่หลุดเข้าไป ตามธรรมชาติแล้วมักมีลักษณะไม่กลม โดยปกติแล้ว ไข่มุกจะมีสีขาวเหลือบสีรุ้งเล็กน้อยจนถึงขาวนวล แต่ก็มีสีอื่นๆ อีกอย่างเช่น สีชมพู สีเงิน สีครีม สีเหลือง สีทอง สีเทา สีน้ำตาล และสีดำ โดยสีต่างๆ ของไข่มุกนั้นก็เกิดขึ้นอยู่กับชนิดของหอยมุก และสภาวะแวดล้อมในบริเวณที่หอยมุกอยู่อาศัยนั่นเอง

ความหมายของมุกสีต่างๆ

สีเหลือง        หมายถึง        ความมั่งคั่ง
สีน้ำตาล       หมายถึง         สติปัญญา
สีขาว           หมายถึง         อิสระ เสรีภาพ
สีเขียว         หมายถึง         ความสุข

 

ตำนานของมุก
นับตั้งแต่โบราณมามุกก็ยังได้ชื่อว่าเป็นอัญมณีที่มีผู้ชื่นชอบเป็นอย่างมาก และเป็นเครื่องประดับแห่งชนชั้นสูง เห็นได้จากบทกวีของโฮเมอร์ กวีเอกของกรีกโบราณ (1,200-850 ปี ก่อนคริสตศักราช) ได้บรรยายเรื่องของไข่มุกไว้ว่า เทพธิดายูโนมีเครื่องประดับเป็นต่างหูไข่มุก จึงนับได้ว่าไข่มุกเป็นเครื่องประดับ เป็นอัญมณีที่เก่าแก่และสตรีชาวโรมันต่างก็ชื่นชอบต่างหูมุก

ไพลนี นักเขียนขาวโรมันก็ยังได้บรรยายไว้ พระนางคลีโอพัตราได้ละลายไข่มุกล้ำค่าราคาสูงลิบลงในเหล้าองุ่นแล้วดื่ม เพื่อแสดงถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อมาร์ก แอนโทนี นอกจากนี้พระนางยังทรงต่างหูไข่มุกอยู่เสมอ หรือแม้แต่สตรีผู้ยิ่งใหญ่ของโลกดังเช่น พระนางซูสีไทเฮานั้นก็มีหลักฐานบันทึกมากมายว่าทรงโปรดเครื่องประดับไข่มุกเป็นอย่างยิ่ง

แต่ในการใช้เครื่องประดับมุกในประเทศไทยนั้น แท้จริงน่าจะเริ่มต้นเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ 5 ตามแบบอย่างเจ้านายสตรีที่นิยมเสื้อผ้าตามแบบฝรั่ง จึงนำเอาไข่มุกมาประยุกต์ให้เข้ากับเสื้อผ้า "ไข่มุก" จำนวนมากจึงได้เข้ามามีบทบาทเป็นเครื่องประดับยอดนิยม อันเป็นแฟชั่นในยุคนั้นได้อย่างเหมาะเจาะ ไม่ว่าจะเป็นสร้อยไข่มุกยาว ต่างหูไข่มุก แหวนไข่มุก

 

ชนิดและประเภทของมุก

มุกสามารถจำแนกตามลักษณะการเกิด ได้ดังนี้

nutralpearl 1) Natural Pearls
มุกธรรมชาติเป็นอัญมณีที่หายากและราคาค่อนข้างแพง การจำหน่ายจะใช้หน่วยเป็นกะรัต

 

cultured-pearl 2) Cultured Perals
เนื่องจากมุกธรรมชาติเป็นของหายาก  และเป็นเครื่องประดับที่ราคาแพง ด้วยเหตุนี้เองจึงมีผู้ค้นคิดการเพาะเลี้ยงหอยมุก ผู้ผลิตประสบความสำเร็จคนแรกคือ นายโคคิชิ มิกิโมโตะ ได้นำมาดัดแปลงเอาหอยมุกขัดเป็นเม็ดกลมๆ เข้าไปในฝามุก เกิดเป็นมุกเลี้ยงมีสีสวยงาม หอยมุกที่นำมาเลี้ยงมีทั้งหอยทะเลและหอยน้ำจืด แต่ที่นิยมคือ หอยสองฝาเพราะมีเมือกเยอะ ไข่มุกเลี้ยงเรียกอีกอย่างว่า culture pearl สำหรับประเทศไทย บริษัทนาคาไข่มุก สามารถประสบความสำเร็จในการเลี้ยงเป็นบริษัทแรก รู้จักกันในนามของ "ไข่มุกทะเลใต้" (south sea pearl) ทำการเพาะเลี้ยงที่เกาะนาคาน้อย จังหวัดภูเก็ต เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2507 ที่เกาะยาวน้อยร่วมกับญี่ปุ่น มีระยะเวลากว่า 30 ปี ทำจากหอยมุกที่เรียกว่า หอยมุกจาน ผลผลิตมีมากสุดปีละ 12,000 เม็ด ทำรายได้ปีละสิบกว่าล้านบาท ตลาดที่ส่งคือ ญี่ปุ่น มีบางส่วนขายในประเทศไทย ปัจจุบันเหลือน้อยลง
มุกเลี้ยงสามารถกำหนดรูปร่างของมุกที่ต้องการได้ โดยการใส่วัตถุแปลกปลอมที่มีรูปร่างตามที่ต้องการเข้าไปในตัวหอย ซึ่งคุณภาพของมุกจะขึ้นกับชนิดของหอยที่ใช้เลี้ยง คุณภาพของน้ำ และระยะเวลาก่อนการเก็บหอยมุก มุกเลี้ยงยิ่งมีความหนาของสารเคลือบมากจะมีความแข็งแรงและคุณภาพดี สำหรับการจำหน่ายมุกเลี้ยงจะใช้ขนาดของเม็ดไข่มุก (มิลลิเมตร) เป็นตัวกำหนดราคา

3) Saltwater Pearls
มุกน้ำเค็ม เป็นได้ทั้งมุกธรรมชาติและมุกเลี้ยง แต่จำแนกตามสถานที่เกิด คือ หอยน้ำเค็ม

4) Freshwater Pearls
มุกน้ำจืดเกิดจากหอยน้ำจืดที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำหรือทะเลสาบ


หากจำแนกตามลักษณะรูปร่าง สามารถแบ่งได้เป็น

1) Spherical Pearls
มุกทรงกลม เป็นทรงที่นิยมมากที่สุด ยิ่งมุกมีความกลมมากเท่าใด ราคาก็จะยิ่งแพง

2) Symmetrical Pearls
มุกที่ไม่กลม แต่มีความสมมาตรของรูปร่าง เช่น รี หยดน้ำ เป็นต้น

3) Baroque Pearls
มุกที่มีรูปทรงแปลกประหลาด โดยมากมักจะมีราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับมุกรูปทรงอื่นๆ แต่มุกรูปร่างแบบนี้ก็นับว่ามีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์

 

ปัจจุบันความนิยมของการใช้เครื่องประดับมุก ก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเครื่องประดับมุกรูปแบบใหม่ อันแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ ของเหล่าดีไซเนอร์แบรนด์ดังก็ยังคงสามารถครองใจผู้ที่ชื่นชอบเครื่องประดับมุกได้ไม่เสื่อมคลาย

 

11/13/2551 | Posted in , , , | Read More »

มณีนพรัตน์

เพชรดี มณีแดง เขียวใสแสงมรกต เหลืองใสสดบุษราคัม แดงแก่ก่ำโกเมนเอก สีหมอกเมฆนิลกาฬ มุกดาหารหมอกมัว แดงสลัวเพทาย สังวาลย์สายไพฑูรย์

เพชรและพลอยอีก 8 ชนิด รวมเป็น 9 ชนิดนี้ รวมเรียกว่า "นพเก้า" ที่เป็นสิริมงคลสูงสุด แก่ผู้สวมใส่ แต่เดิมจะใช้เฉพาะพระมหากษัตริย์ และพระราชวงศ์ และใช้เฉพาะในงานมงคลเท่านั้น ในปัจจุบันนี้ "นพเก้า" ยังเป็นที่นิยม และถือว่าเป็นสิริมงคลแก่ผู้สวมใส่
ตามความเชื่อที่ว่าอัญมณีแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในทางมงคล ป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆและขจัดความไม่เป็นมงคลทั้งหลายให้สิ้นไปได้หากผู้ใดมีไว้ในครอบครองก็เท่ากับมีมงคลไว้ติดตัว ทำสิ่งใดย่อมมีความสำเร็จด้วยเหตุที่แหวนนพเก้ามีทั้งความงามและคุณค่าในตัวเองโดยแทบไม่ต้องปรุงแต่งนับแต่โบราณมาแล้ว คนไทยได้รับอิทธิพลความเชื่อของอัญมณีชนิดนี้มาจากอินเดียแต่ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเข้ามามีอิทธิพลเมื่อไรด้วยเหตุที่คนอินเดียมีวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีอันยาวนาน เขาจึงรู้คุณค่าและความสวยงามของอัญมณีชนิดนี้เป็นอย่างดี ทั้งยังนำไปเกี่ยวข้องและเกี่ยวพันกับดวงดาว ซึ่งมีอำนาจและพลังเป็นคุณวิเศษที่จะนำพาความเจริญรุ่งเรืองและสิริมงคลทั้งหลายมาสู่ผู้สวมใส่ นอกจากนี้ยังมีพลังแห่งการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้อีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ชาวตะวันตก ชาวอียิปต์โบราณ ชาวจีนหรือแม้แต่ชาวป่าเผ่าต่าง ๆก็มีความเชื่อถือในพลังของอัญมณีเหล่านี้เช่นกัน

แหวนนพเก้า
คนโบราณมักนิยมนำพลอยนพเก้ามาทำเป็นแหวน โดยเรียกว่า “แหวนนพเก้า” หรือ "แหวนนพรัตน์" เป็นแหวนสูงค่าที่รู้จักกันดีมานานนับร้อยปี ตามความเชื่อที่ว่า อัญมณีแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในทางมงคล ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ และขจัดความไม่เป็น มงคลทั้งหลายให้สิ้นไปได้ หากผู้ใดมีไว้ในครอบครอง ก็เท่ากับมีมงคลไว้ติดตัว ทำสิ่งใดย่อมมี ความสำเร็จ ด้วยเหตุที่แหวนนพเก้ามีทั้งความงามและคุณค่าในตัวเองโดยแทบไม่ต้องปรุงแต่ง

ring
คุณค่าของนพเก้าหรือนพรัตน์
เพชรยิ่งใหญ่ ไพรี ไม่มีกล้ำ        ทับทิมนำ อายุยืน เพิ่มพูนผล
อุดมลาภ ยศศักดิ์ ประจักษ์ดล     มรกต กันภัยพ้น ผองเล็บงา
บุษราคัม ฉาบเสน่ห์ ไม่เสแสร้ง   โกเมนแจ้ง แคล้วพาลภัย ใจสุขา   
ไพลินย้ำ ความร่ำรวย ช่วยนำพา   มุกดาหาร เสน่หา น่าเมียงมอง
อันเพทาย ช่วยกันโทษ ที่โฉดเขลา   ไพฑูรย์เล่า กันฟอนไฟ ภัยทั้งผอง
ดลบันดาล ให้เทวา มาคุ้มครอง         สบสนองคุณค่าแจ้ง แห่งนพรัตน์



diamond เพชร (Daimond) เป็นผลึกบริสุทธิ์ของธาตุคาร์บอน มนุษย์รู้จักและนำมาใช้กว่า 2,800 ปีมาแล้วจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า อินเดียเป็นประเทศแรกที่ขุดพบเพชร ต่อมาได้ขยายไปสู่บราซิล อัฟริกา รัสเซีย และตามที่ต่าง ๆ ของโลก ปัจจุบันเหมืองขนาดใหญ่และสำคัญอยู่ที่อัฟริกา และประเทศออสเตรเลีย ลักษณะของเพชรจะเป็นผลึก 8 เหลี่ยมหรือ 12 เหลี่ยม มีความแข็งสูงสุดคือ อันดับ 10 ซึ่งมากกว่าอัญมณีอื่น ๆ มีความโปร่งใสและกึ่งโปร่งแสง ยามต้องแสงไฟประกายของเพชรจะสวยงามและเป็นมันวาวสูง น่าดูยิ่งนัก ในวงการของเพชรพลอยถือว่าเพชรน้ำดีจริง ๆ นั้น จะต้องใสบริสุทธิ์ ไม่มีสีอื่นปน มีรูปร่างในการเจียระไนสวยงามและไม่มีมลทิน
ในด้านของความรัก การใช้แหวนเพชรสวมใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายนั้นเชื่อกันว่าตำแหน่งดังกล่าว เส้นโลหิตจะชี้พุ่งตรงสู่หัวใจพอดี อันหมายถึงเส้นชีวิตแห่งความรัก เพชรเป็นพลอยประจำเดือนเมษายน

ruby ทับทิม (Ruby) ชาวอินเดียเรียกรัตนราช ถือกันว่าเป็นราชาแห่งอัญมณี ด้วยเหตุที่มีสีแดงเป็นที่ต้องตาแก่ผู้พบเห็นทับทิมที่สูงค่านั้น มักพบในประเทศพม่า ซึ่งมีสีแดงดุจเลือดนกพิราบ สำหรับไทยความงามของทับทิมพบได้ที่จังหวัดตราด ประมาณ 75%ของโลกเป็นทับทิมมาจากไทย นอกนั้นพบจากศรีลังกา กัมพูชา เวียดนาม เคนยาและอัฟริกา
ทับทิม จัดอยู่ในแร่จำพวกคอรันดัม (Corrundum) เกิดจากธาตุ 2 ชนิดคือ อลูมินัม (Aluminum) และออกไซด์ (Oxide) จะพบเห็นเป็นรูปผลึก 6 เหลี่ยม มีความแข็งเป็น 9 มีความวาวเป็นประกายคล้ายเพชรไปจนถึงคล้ายแก้ว สำหรับคนดังที่โปรดปรานทับทิมเป็นพิเศษนั้นเห็นจะได้แก่ ซาร่าห์ชายาแห่งปรินซ์เอ็ดเวิร์ด  ทับทิม เป็นพลอยประจำเดือนกรกฎาคม


emerald มรกต (Emerald) จัดเป็นอัญมณีเลอค่าในตระกูลเบอริล (Beryl) มีผลึกเป็นรูป 6 เหลี่ยม มรกตที่จัดว่างามต้องมีสีเขียวบริสุทธิ์หรือมีสีน้ำเงินเจือเพียงเล็กน้อย มีความเข้มของสีในระดับปานกลางจนถึงอ่อนเล็กน้อย มีความอิ่มตัวของสีและความบริสุทธิ์สูง มรกตที่ไร้รอยตำหนินั้นไม่มีในธรรมชาติ เพราะการเกิดมรกตในธรรมชาตินั้น สายแร่ที่เกิดผลึกมรกตจะถูกธรรมชาติกดดันให้เกิดการแตกร้าวอยู่เสมอ
ความงามของมรกตนั้นเป็นที่เลื่องลือกันมาก โดยเฉพาะโคลัมเบียถือเป็นแหล่งที่ผู้แสวงหานิยมกันมาก การมีมรกตไว้ในครอบครองจะทำให้คู่รักเห็นถึงความซื่อสัตย์ซึ่งกันและกัน มรกตเป็นสัญลักษณ์แห่งความเชื่อมั่น ความกรุณา และความดีงาม
มรกต เป็นพลอยประจำเดือนพฤษภาคม

YellowSapphireบุษราคัม (Yellow Sapphire) เป็นพลอยแซฟไฟร์อีกประเภทหนึ่ง เดิมเข้าใจว่าเป็น Oriental Topaz หรือ Imperial Topaz บุษราคัมมีความแข็งและความถ่วงจำเพาะ หรือคุณสมบัติอื่นเหมือนทับทิมและไพลิน ความงามของบุษราคัมอยู่ที่สีเหลืองสดดุจดังเปลวไฟ แต่มักพบน้อยมากในธรรมชาติ แหล่งสำคัญที่พบได้ในประเทศไทยและศรีลังกา ส่วนของประเทศออสเตรเลีย สีของบุษราคัมจะค่อนข้างอ่อน ในด้านของราคาบุษราคัมไทยจะสูงกว่าศรีลังกาเป็น 2 เท่า
เชื่อกันว่า เมื่อป่นบุษราคัมเป็นผง สามารถรักษาแผลที่เกิดจากไฟไหม้ได้ รักษาโรคหืดหอบ โรคนอนไม่หลับ และการตกเลือดได้ นอกจากนี้ยังนำความรื่นเริงมาสู่ผู้สวมใส่ บุษราคัม เป็นพลอยประจำเดือนพฤศจิกายน

Garnet โกเมน (Garnet) เป็นอัญมณีที่พบได้มากตามที่ต่าง ๆ มีเกือบทุกสียกเว้นสีฟ้าและน้ำเงิน การนำโกเมนมาประดับประดามีมาหลายพันปีแล้ว ชาวเปอร์เซียถือว่า โกเมนเป็นอัญมณีของกษัตริย์โดยนำมาแกะสลักเป็นตราพระเจ้าแผ่นดิน
โกเมนในไทยจะมีสีแดง มักเกิดร่วมกับพลอยไพลิน (Blue Sapphire) พบมากที่บางกะจะ เขาพลอยแหวน จังหวัดจันทบุรี และที่บ่อหนองบอน จังหวัดตราด โกเมน เป็นพลอยประจำเดือนมกราคม

 



Sapphire นิลกาฬหรือไพลิน (Blue Sapphire) อัญมณีไพลินสีฟ้าหรือสีน้ำเงินเป็นพลอยแซฟไฟร์อีกประเภทหนึ่ง การนำไพลินมาประดับมีมาแต่สมัยโบราณกว่า 2,000 ปี แหล่งสำคัญที่พบคือ พม่า ศรีลังกา และไทย ไพลินที่จัดว่างามต้องมีสีน้ำเงินแก่จัดคล้ายสีดอกอัญชัน เนื้อใส และดูมีน้ำเด่น เป็นประกาย อย่างที่เรียกกันว่า “กำมะหยี่” จะเป็นที่นิยมมาก คนดังอย่างเลดี้ไดอาน่า ก็โปรดปรานไพลินเป็นที่สุด
ไพลิน เป็นพลอยประจำเดือนกันยายน

 


Moonstone มุกดาหาร (Moonstone) จัดเป็นอัญมณีอีกประเภทหนึ่งที่นิยมนำมาประดับเรือนกาย พบมากในอินเดีย มุกดาหารที่งดงามควรออกสีขาวและทอแสงสีฟ้า นอกจากนี้ยังเชื่อว่า อัญมณีที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อนำมาชมต้องห่อด้วยผ้าสีเหลืองซึ่งเป็นสีแห่งความศักดิ์สิทธิ์
มุกดาหาร เป็นพลอยประจำเดือนมิถุนายน

 

 


zircon เพทาย (Zircon) พบได้หลายสี แต่ที่สำคัญคือ สีแดงออกน้ำตาลและสีฟ้าใส ๆ แหล่งที่พบมีตั้งแต่ไทย ศรีลังกา กัมพูชา
เพทายเป็นรัตนชาติที่เก่าแก่ชนิดหนึ่งที่รู้จักกันดี เพราะความมีน้ำเป็นประกายสดใสดุจเพชร แต่มีเนื้อเปราะไม่ทนต่อแรงกระทบหรือแรงกด หรือแม้แต่การเสียดสีของพลอยซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ขอบมุมของพลอยที่เจียระไนแล้วยังแตกได้ง่าย
เพทาย เป็นพลอยประจำเดือนธันวาคม

 

chrysoberyl ไพฑูรย์ (Chrysoberyl) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า พลอยตาแมว เป็นอัญมณีที่แปลกกว่าอัญมณีอื่น ๆ เพราะมีเส้นคาดกลางเม็ด เมื่อได้รับการเจียระไนได้เป็นรูปหลังเบี้ย พบมากที่ศรีลังกา จัดเป็นแร่ที่สวยงาม มีคุณค่าอีกชนิดหนึ่ง ไพฑูรย์เม็ดงามมีราคาสูง จะมีสีน้ำผึ้ง สีเหลืองอมเขียวหรือน้ำตาลและมีขา (Star) ที่สวยเป็นเงางาม

 

 



อัญมณีทั้ง ๙ ชนิดนี้ ประเทศไทยมีเกือบครบ ยกเว้น มรกตและไพฑูรย์ ซึ่งยังไม่พบ ชนิดที่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งในอดีตและปัจจุบันคือ ทับทิมสยาม รองลงมาคือ ไพลินหรือนิลกาฬนั่นเอง


อ้างอิง : นิตยสาร พลอย

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
  พลอยประจำเดือนเกิด
  เพชร
  Birthstone Mystery

11/12/2551 | Posted in , , , , , , , , , , , , , | Read More »

อำพัน (Amber)

 

amber อำพัน (Amber) แปลตามพจนานุกรมว่า หินสีเหลืองใสเป็นเงา เป็นอัญมณีที่ก่อกำเนิดมาจาก “ยางของต้นสน” เมื่อต้นสนจำนวนมากมาตายทับถมกันเป็นเวลานานนับหลายสิบล้านปียางของต้นสนจำนวนมากเหล่านี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพและแข็งตัวกลายเป็นหิน มีสีสันสวยงามมาก

อำพันส่วนใหญ่จะมีสีเหลืองทั้งเหลืองอ่อน เหลืองทอง เหลืองอมส้ม น้ำตาลแดง ฯลฯ และบางครั้งอาจพบสีเขียวอมน้ำเงิน หรือม่วงซึ่งพบน้อยได้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของต้นสนและยางสน จำนวนฟองอากาศ โดยเมื่อรวมทุกสีและทุกระดับความอ่อนแก่ของสีด้วยแล้วปรากฎว่าสีของอำพันนั้นมีไม่น้อยกว่า 200 ชนิดเลยทีเดียว

อำพันมีหลายชนิด เช่น ค้นพบในทะเลเรียกว่า อำพันทะเล ส่วนอำพันบ่อค้นพบด้วยการขุดลงไปในดิน โดยส่วนมากจะพบอำพันในบริเวณทะเลบอลติก ซึ่งในอำพันมีส่วนผสมของยางสนหลายชนิดกับกรดซักซินิกและหัวน้ำมัน (Volatile Oil) และภายในอำพันนั้นมักจะมีแมลงต่างๆตายติดอยู่ภายในด้วยเช่น แมลงปอ แมงป่อง ฯลฯ หรือเศษเปลือกไม้ ใบไม้ ฟองอากาศ เป็นต้น แมลงต่างๆเมื่อติดกับความเหนียวของยางสนก็จะพยายามตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดจนกระทั่งตายไป เมื่อถูกยางสนทับถมมากขึ้นก็จะถูกฝังอยู่ภายในเป็นการรักษารูปร่างของสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นไว้ได้อย่างสมบูรณ์และมีประโยชน์มากที่สุด ทำให้คนในยุคปัจจุบันได้ใช้ศึกษาและเปรียบเทียบถึงการพัฒนาโครงสร้างของสัตว์ต่างๆเมื่อหลายสิบล้านปีมาแล้วกับปัจจุบัน แต่มีอำพันจำนวนมากอีกเช่นกันที่มีเนื้อใสสะอาดไม่มีสิ่งแปลกปลอมแทรกอยู่ ซึ่งอำพันชนิดนี้จะมีราคาสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า โดยเฉพาะกับตลาดอัญมณีในสหรัฐอเมริกา ส่วนชนิดที่มีสิ่งแปลกปลอมแทรกอยู่เช่น เศษใบไม้ ฟองอากาศ ฯลฯ จะมีราคาถูกยกเว้นพบพวกซากสัตว์ต่างๆจะมีราคาสูง

 

ตำนานเกี่ยวกับอำพัน
ในนิยายกรีกโบราณมีอยู่ว่า  อำพันเกิดจากน้ำตาของบรรดาน้องสาวเฟตัน เฟตันเป็นลูกชายของเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ชอบนั่งรถสองล้อของบิดา ได้พลัดตกลงมาจากสวรรค์ตาย ศพของเฟตันถูกนำไปฝังไว้ที่แม่น้ำเอริตานุส  บรรดาน้องสาวเฟตันที่ได้ร่วมพิธีฝังศพต่างเศร้าโศกยิ่งจนกลายเป็นต้นไม้  น้ำตาที่ไหลออกมาก็กลายเป็นอำพันไป อำพันเป็นที่นิยมมากในสมัยจักรพรรติเนโรแห่งโรม  โดยมีค่าใช้แลกทาสได้

คุณสมบัติทางอัญมณี
อำพันมีความแข็ง 2-2.5 โมห์สเกล มีความวาวแบบยางสน เนื่องจากอำพันมีระดับความแข็งที่ต่ำมากจึงเกิดริ้วรอยขูดขีดได้ง่ายแม้แต่เล็บก็สามารถขูดอำพันให้เป็นรอยได้ และมีดธรรมดาก็สามารถตัดอำพันให้ขาดเป็นท่อนๆได้เช่นกัน นอกจากนี้ฝุ่นละอองของแร่ควอร์ตซ์ (quartz) ในอากาศก็สามารถทำให้ผิวของอำพันลดความมันวาวลงไปได้เรื่อยๆแม้ว่าเจ้าของจะพยายามใช้สอยอำพันอย่างทะนุถนอมและระมัดระวังเพียงใดก็ตาม ดังนั้นจึงต้องเก็บอำพันแยกจากอัญมณีอื่นๆ

baltic amber 

ตัวอย่างของอำพันจากทะเลบอลติก (Baltic Amber)
ที่มา andzia's amber jewelry

แหล่งที่ค้นพบและความนิยม
อำพันถูกค้นพบครั้งแรกที่บริเวณแนวชายฝั่งทะเลบอลติกและในปัจจุบันแถบชายฝั่งทะเลบอลติกก็ยังคงเป็นแหล่งอำพันที่ใหญ่มากอยู่เช่นเดิม ถือว่าเป็นแหล่งที่มีคุณภาพดีที่สุด และมีราคาสูงกว่าแหล่งอื่นๆ แหล่งที่สำคัญอื่นๆได้แก่ โปแลนด์ รัสเซีย ลิทัวเนีย แลตเวีย ถึงจะพูดได้ว่าอำพันที่มีคุณภาพดีจะมีราคาสูงแต่เมื่อเปรียบเทียบกับอัญมณีอื่นๆแล้วราคาของอำพันก็ยังจัดว่าอยู่ในกลุ่มค่อนข้างถูกอยู่ดีทั้งนี้เพราะคุณสมบัติทางด้านความแข็ง ความวาว ฯลฯ ที่ค่อนข้างด้อยคุณภาพนั่นเอง

นอกจากอำพันจะเป็นที่นิยมของตลาดยุโรป อเมริกา และแอฟริกาแล้ว ยังเป็นอัญมณียอดนิยมของญี่ปุ่นอีกด้วย โดยความนิยมนั้นมีมากถึงขนาดเรียกขานอำพันว่า “Kokaku” อันหมายถึง สิ่งที่สามารถเร่งเร้าหัวใจให้บังเกิดความรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวาและบังเกิดจินตนาการอันหลากหลายมากมาย ในประเทศญี่ปุ่นเคยค้นพบอำพันตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 แต่ก็มีปริมาณไม่มากนักจึงได้นำเข้าจาก รัสเซียและแหล่งอื่นๆเป็นจำนวนมาก

baltic-amberรูปแบบการเจียระไน
นิยมเจียระไนอำพันเป็นลูกปัดแบบต่างๆร้อยเป็นสายสร้อยหรือเจียระไนเป็นหลังเบี้ยทำเป็นหัวแหวน ต่างหู จี้ กำไล ฯลฯ หรือ เจียระไนตามเค้าโครงรูปก้อนเดิม อันเป็นการคงความงามไว้ตามธรรมชาติ

อำพันเลียนแบบ
ยางของต้นไม้ชนิดต่างๆอาจนำมาเลียนแบบเป็นอำพัน เช่น ยางสนอายุต่ำที่เรียกว่า โคปอล (Copal ) พลาสติก


การปรับปรุงคุณภาพอำพัน
มนุษย์มีความพยายามในการปรับปรุงลักษณะภายนอกของอำพันให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นโดยการต้มอำพันในน้ำมัน ( Heating in oil ) เพื่อทำให้เนื้อในดูโปร่งใสขึ้นแต่การต้มจะทำให้เนื้อในเกิดเป็นรอยแตกเป็นแผ่นเรียกว่า “ซันสแปงเกิล” (Sun Spangles) เป็นตำหนิที่มีลักษณะคล้ายแผ่นใบไม้นั่นเอง และยังมีการเผาเพื่อย้อมสี เป็นการทำเพื่อเปลี่ยนสีไปตามความนิยม รวมทั้งการทำเอมเบอรอยด์ (Amberoid) ซึ่งเป็นการทำชิ้นส่วนของอำพันให้เป็นชิ้นใหญ่ขึ้น โดยการนำเอาอำพันชิ้นเล็กๆมาเผาหลอมเข้ารวมเป็นก้อนเดียวกัน


วิธีตรวจสอบ
อำพันแท้มีความถ่วงจำเพาะต่ำมาก จึงสามารถลอยอยู่ในน้ำทะเลได้เราสามารถตรวจสอบอย่างง่ายๆโดยการนำอำพันไปลอยในแก้วน้ำเกลือถ้าอำพันจมน้ำก็แปลว่าเป็นของปลอม
อีกวิธีหนึ่งก็คือการทดสอบด้วยแรงดูดจากอำนาจไฟฟ้าโดยการนำอำพันไปถูกับผ้าขนสัตว์และจะเกิดอำนาจทางไฟฟ้าขึ้นภายในแท่งอำพันนั้นทำให้สามารถดูดวัตถุชิ้นเล็กๆที่อยู่ใกล้ๆได้ทำการเปรียบเทียบกับแท่งแก้วหรือพลาสติกหากอำพันมีระยะดูดวัตถุที่ไกลกว่าแสดงว่าอำพันนั้นเป็นของแท้ ด้วยคุณสมบัติของอำพันที่เมื่อเสียดสีจะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า และยังเป็นฉนวนไฟฟ้าได้ดี  จึงนำไปใช้ทำเครื่องมือทางฟิสิกส์ด้วย ชาวกรีกถึงกับตั้งชื่อให้ว่า “อีเล็กทรอส” (Elektros) เนื่องมาจากความมีลักษณะที่พิเศษนี้ ซึ่งความหมายของคำว่า elektros ในภาษาอังกฤษ ก็คือ Amber นั่นเอง
อย่างไรก็ตามอาจมีแท่งแก้วหรือพลาสติกบางชนิดที่สามารถเกิดแรงดูดมากพอๆกับอำพันก็เป็นได้จึงจำเป็นต้องใช้วิธีอื่นประกอบในการตรวจสอบด้วยเพื่อให้เกิดความแน่นอนและแม่นยำขึ้น

 

อำพันที่เป็นอัญมณีกับอำพันที่ใช้ทำยาคือชนิดเดียวกันหรือไม่?

อำพันที่เป็นเครื่องยานั้นมี 2 ชนิด คือ อำพันทองและอำพันขี้ปลา

อำพันทองได้จากเมือกมันกามคุณของปลาวาฬที่มีมากอย่างชะมดเช็ด ลอยอยู่ในมหาสมุทรนานเข้าก็ลอยไปติดตามเกาะ  สีดำเป็นเงาคล้ายตับเป็ด แข็งแต่เบา  ลอยน้ำได้

อำพันขี้ปลาได้จากอุจจาระปลาวาฬ  ถ่ายครั้งแรกกลิ่นเหม็นมาก จนถึงอุจจาระครั้งสุดท้ายสีจะเหลืองนวล  กลิ่นก็หมดไป  จึงนำมาใช้เป็นยา มีขายตามร้านขายยาแผนโบราณ

อำพันที่เป็นเครื่องยานี้มีรสเอียน  คาว  แก้ลม  แก้เสมหะทำให้มีกำลัง ใช้แทรกกระสายยา ราคาแพง มักใช้กับคนไข้หนักไม่มีกำลัง เป็นยาบำรุงกำหนัด นอกจากนั้นยังใช้ใส่น้ำหอมเพื่อตรึงกลิ่นเช่นเดียวกับชะมดเช็ด

ข้อมูลจาก : สารานุกรมไทยของอุทัย  สินธุสาร , อาจารย์จักรกฤษณ์ ศิริรักษ์ (วิทยาลัยอัญมณี มหาวิทยาลัยบูรพา)

11/11/2551 | Posted in , , , | Read More »

พลอยประจำเดือนเกิด พฤศจิกายน - โทพาซ (Topaz)

YellowTopaz โทแพซ (Topaz) มาจากภาษากรีก โทแพเซียน "topazian" หมายถึงการเสาะแสวงหา คนโบราณ เรียกหินหรือแร่ทุกชนิดที่มีสีเหลืองและสีเขียวว่าโทแพซ ต่อมากลายเป็นชื่อเกาะที่พบพลอยสีดังกล่าว "โทแพโซส (Topazos)" ซึ่งเป็นเกาะหนึ่งในทะเลแดง ปัจจุบันเกาะนั้นมีชื่อว่า ซีเบอร์เกต (Zebirget)  

โทพาซสีเหลือง นอกจากจะเป็นพลอยประจำเดือนเกิดของคนที่เกิดในเดือนพฤศจิกายนแล้ว ยังเป็นอัญมณีประจำของคนธาตุไฟด้วย ตามความเชื่อที่ว่า แม้โทพาซสีเหลืองจะเป็นพลอยที่ให้ความสงบ แต่ก็ช่วยเพิ่มพลังให้แก่ผู้สวมใส่ นอกจากนี้ยังให้ความกระตือรือร้น ตรงข้ามก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ซ้ำยังให้ความสว่างกับจิตวิญญาณ ในเชิงธุรกิจจะช่วยสร้างมิตรภาพและมีพลังดึงดูดผู้คน ส่วนในเรื่องสุขภาพ จะช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบขับถ่าย เช่นตับ ถุงน้ำดี กระเพาะปัสสาวะ และต่อมหมวกไต

สมบัติของโทพาส
สูตรโมเลกุล Al2(SiO4)(OH,F)2 จัดอยู่ในหมู่ซิลิเกตที่มีองค์ประกอบของอลูมิเนียม ฟลูออรีน และหมู่ไฮดรอกซิล
ระบบผลึก Orthorhombic โดยทั่วไปมักพบทั้งรูปทรงปริซึมแบบแท่งยาว ถึง สั้น มีหลากหลายสี เช่น สีขาว สีเหลือง-เหลืองทอง-เหลืองอมส้ม-ส้ม น้ำตาล ฟ้า ส่วนสีชมพูและแดงค่อนข้างหายาก

ความแข็ง จัดอยู่ในระดับ 8 ของโมห์สเกล
ความถ่วงจำเพาะ อยู่ระหว่าง 3.52 - 3.56 g/cm3
ค่าดัชนีหักเห อยู่ระหว่าง 1.638 - 1.610 ซึ่งจะมีค่าสูงหรือต่ำขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางเคมี โดยถ้ามี หมู่ไฮดรอกซิลมาก ค่าความถ่วงจำเพาะจะต่ำ แต่ค่าดัชนีหักเหจะสูง ขณะที่ถ้ามีธาตุฟลูออรีนสูง จะมีค่าความถ่วงจำเพาะจะสูง แต่ค่าดัชนีหักเหจะต่ำ
แหล่งกำเนิด พบมากในประเทศบราซิล รองลงมาคือ เม็กซิโก อเมริกา ศรีลังกา ญี่ปุ่น ไนจีเรีย และรัสเซีย (บริเวณแถบไซบีเรีย และเทือกเขาอูราล)
อัญมณีที่เลียนแบบ ได้แก่ ซิทริน เบริลสีเหลือง คริสโซเบริลสีเหลือง และแก้วสังเคราะห์สีเหลือง เป็นต้น
การปรับปรุงคุณภาพ ส่วนมากอาบรังสีในโทพาซสีฟ้า ส่วนสีเหลืองนั้นเป็นสีธรรมชาติอยู่แล้ว

 

พลอยอีกชนิดหนึ่งที่เปิดโอกาสให้เลือกเป็นพลอยประจำเดือนพฤศจิกายน คือ ซิทริน (Citrine) มาจากภาษาฝรั่งเศส "Citron" แปลว่า มะนาว เป็นการตั้งชื่อตามสีเพราะมีสีเหลืองมะนาว  แต่ในความเป็นจริงแล้ว ซิทรินมิได้มีสีเหลืองอย่างผลมะนาว แต่จะมีสีอยู่ในช่วงเหลืองอ่อนจนถึงน้ำตาลทองมากกว่า และส่วนมากจะมีสีเหลืองจางๆสีของมันอาจเหลือง เนื่องจากมีเหล็กเป็นมลทินบริสุทธิ์หรืออาจออกเหลืองทึมๆ อาจมีสีน้ำผึ้งหรือเหลืองน้ำตาลและบางครั้งก็อาจมีแต้มสีน้ำตาลปนแดงด้วย และเช่นเดียวกับอะมิทิสต์ สีของซิทรินมักไม่ค่อยสม่ำเสมอ มักเห็นเป็นแทบสีแต่ก็ไม่ชัดเจน
ซิทรินมีความวาวคล้ายอะเมทิสต์ และตามปกติซิทรินที่เจียระไนแล้วจะมีเนื้อที่ใสสะอาด ปราศจากมลทิน ทั้งนี้เพราะในธรรมชาติจะมีซิทรินอยู่อย่างเหลือเฟือและเพียงพอที่จะคัดเอาเฉพาะที่มีคุณภาพดีเยี่ยมเท่านั้นมาเจียระไน โดยอาจเจียระไนเป็นรูปทรงหรือเหลี่ยมแบบใดก็ได้ยกเว้นเหลี่ยมเกสร เพราะมันไม่วูบวาบพอ และมีขนาดตั้งแต่ 10 กะรัตขึ้นไปก็หาได้ไม่ยาก

  Citrine

ซิทริน (Citrine) เป็นพลอยโปร่งใสสีเหลือง ส้ม และ ส้มอมน้ำตาล สีเกิดจากธาตุเหล็ก (Fe) ซิทรินที่มีในท้องตลาดส่วนใหญ่ได้มาจากการเผาอะเมทิสต์ (Amethyst) จัดอยู่ในกลุ่มของ ควอรตซ์ (Quartz) เป็นแร่ที่มีความหลากหลายในแง่ของการเกิดและชนิดมากที่สุด พบทั้งในหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร การที่มีความแข็งเท่ากับ 7 ไม่มีแนวแตกเรียบ และมีเสถียรภาพทางเคมี ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีทั่วไป จึงเป็นแร่ที่ทนทานต่อการผุกร่อน และทนต่อการทำลายทางเคมีมาก ทำให้ควอรตซ์ยังคงสภาพอยู่ได้ในรูปของกรวดทรายตามตะกอนทางน้ำและชายทะเล
ควอรตซ์ที่เป็นอัญมณี แบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีผลึกหยาบ (Coarsely Crystalline) และกลุ่มที่มีผลึกละเอียด (Crypto crystalline) ทั้ง 2 กลุ่มมีส่วนประกอบทางเคมีและโครงสร้างเหมือนกัน ต่างกันที่การเกิด ขนาดผลึก มลทินที่ทำให้เกิดสี และรูปแบบของสี (pattern) เท่านั้น สำหรับซิทริน จัดอยู่ใน กลุ่มที่มีผลึกหยาบ

 
สีของซิทรินจะคล้ายคลึงกับสีของโทปาซมากจนเกิดการเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆว่าเป็นโทปาซ ถึงขนาดมีการตั้งชื่อให้กับมันเสียใหม่เลยว่า ‘โทปาซ ควอทซ์' ตามธรรมชาติแล้วโทปาซจะมีไม่มากเท่าซิทรินและคุณค่าของมันก็มีมากกว่าซิทรินอีกด้วย โดยเปรียบเทียบ ทั้งโทแพซและซิทรินต่างก็เป็นพลอยที่มีสีเหลืองใสสดเป็นประกายงดงามด้วยกันทั้งคู่ หากแต่โทแพซเป็นพลอยที่มี อันดับสูงกว่าซิทรินและราคาแพงกว่า อย่างไรก็ตามท่านผู้เกิดในเดือนพฤศจิกายน จะเลือกชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นพลอยประจำเดือนเกิด หรือจะเลือกเอาทั้งสองชนิดก็ได้ ปัจจุบันซิทรินเป็นที่นิยมกันมากกว่าโทแพซเพราะแบบหลังหายากและมีราคาแพงกว่า ซิทรินอาจดูคล้ายพลอยอื่นๆที่มีสีคล้ายคลึงกันได้ อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์ซิทรินก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เช่น ซิทรินจะมีความถ่วงจำเพาะต่ำที่สุดในบรรดาพลอยสีเดียวกัน ยิ่งถ้าเปรียบกับโทปาซแล้ว ค่าความถ่วงเฉพาะของซิทรินจะต่ำกว่าโทปาซอยู่มาก และความวาวก็เป็นรองโทปาซอยู่มากเช่นกัน ข้อแตกต่างอีกประการหนึ่งก็คือ ซิทรินจะไม่มีแนวแตกเรียบเหมือนอย่างโทปาซหรือถ้าจะเปรียบเทียบกับบุษราคัมแล้ว ความวาวของซิทรินก็ยังตกเป็นรองบุษราคัมอยูมากเช่นกัน
เป็นที่น่าสังเกตอยู่อย่างหนึ่งว่าอะมิทิสต์ที่นำมาหุงจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืงหรือน้ำตาลเข้มของซิทรินได้ คุณค่าของมันค่อนข้างต่ำและแน่นอนที่สุดคุณค่าของมันก็ต่ำกว่าอะมิทิสต์ด้วย เท่าที่ผ่านมายังไม่เคยมีการผลิตซิทรินปลอมเพื่อเป้าหมายทางการค้าเลย ส่วนใหญ่แล้วจะผลิตใช้เพื่อการอุตสหรรมมากกว่า และแหล่งสำคัญที่สุดของซิทรินก็คือ บราซิล แต่ก็อาจได้มาจากสหรัฐอเมริกา สเปน ฝรั่งเศล สก๊อตแลนด์ และโซเวียต

สมบัติของซิทริน
ความแข็ง  6.5-7 โมห์สเกล
สูตรโมเลกุล SiO2 (Silicon dioxide)
ค่าดัชนีหักเห 1.54-1.55
ความถ่วงจำเพาะ  2.65

อ้างอิง : กรมทรัพยากรธรณี

11/10/2551 | Posted in , , , , , , , , | Read More »

ช่วยน้องไม่ต้องหนาว ครั้งที่ 3


ภาพประกอบจาก : poo

...อากาศหนาว ใจเรา นึกถึงน้อง มีใครต้อง นอนหนาวบ้าง ยังสงสัย
พวกเราขอ เป็นสื่อกลาง ความห่วงใย น้าน้าใจ ไปช่วยคลาย หนาวน้องกัน...

โครงการช่วยน้องไม่ต้องหนาว จัดตั้งขึ้นในปี 2549 โดยกลุ่มคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ที่มีความตั้งใจแน่วแน่ ในการเป็นสื่อกลางนาเครื่องกันหนาวและอุปกรณ์การเรียนไปมอบแก่ผู้ขาดแคลนในชนบทห่างไกล
แม้ว่าโครงการนี้ จะเป็นเพียงโครงการเล็กๆ หากแต่น้ำใจจากผู้บริจาคที่พวกเราได้รับอย่างล้นเหลือในปีที่ผ่านๆ มา นับเป็นกาลังใจให้พวกเรามีพลังสานต่อโครงการฯ เพื่อสร้างรอยยิ้มและความอบอุ่นให้กับเด็กๆ อย่างต่อเนื่องตลอดไป
ปี 2549 ปีแรกของโครงการฯ เริ่มต้นที่ “บ้านตาดควัน” ต.ป่าซาง อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ที่พักพิงของชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือน และเป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ดูแลน้องๆ กว่า 30 ชีวิต ในอาคารเพิงหมาแหงนเพียง 1 หลัง กับคุณครูประจา 1 คน และผู้ช่วยครูอีกเพียง 2 คน
ปี 2550 น้าใจจากทุกคนถูกส่งไปยัง “โรงเรียนตารวจตระเวนชายแดนบ้านดอยล้าน” ใน อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งมีน้องๆ ชั้นอนุบาล - ป. 6 จานวน 74 คน ที่ขาดแคลนทั้งอุปกรณ์การเรียนและอุปกรณ์กีฬา นอกจากนี้ ยังมีศูนย์เด็กก่อนวัยเรียนฯ ที่พักพิงของเด็กน้อย 32 ชีวิต ซึ่งเป็นเพียงอาคารเล็กๆ 1 หลัง ที่ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ เลย แม้กระทั่งผ้าห่มที่น้องน้อยต้องแบ่งปันกันใช้

วัตถุประสงค์
1. แบ่งปันเครื่องกันหนาว และเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้ขาดแคลนในชนบท
2. แบ่งปันอุปกรณ์การเรียนการสอนให้กับนักเรียนในโรงเรียนห่างไกล

จุดหมายปลายทาง 2551
ในดินแดนอันหนาวเหน็บแห่งภูสูง ณ ดอยวาวี อ. แม่สรวย จ. เชียงราย เป็นที่ตั้งของ “โรงเรียนบ้านผาแดงหลวง” ซึ่งมีนักเรียนชั้นอนุบาล 1 ถึง ป. 6 จานวน 67 คน ที่ผู้ปกครองมีฐานะยากจนมาก จนกระทั่งไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาแม้แต่จะซื้อชุดนักเรียนให้ลูกหลานได้ ทำให้ปัจจุบัน ทางโรงเรียนต้องรับอุปการะค่าใช้จ่ายในการเรียนการสอน และอุปกรณ์การเรียนของนักเรียนทั้งหมด ซึ่งไม่เพียงพอกับงบประมาณที่ได้รับจัดสรรในแต่ละปี

ชุมชนบ้านผาแดงหลวงเป็นหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า มีประชากรทั้งหมดประมาณ 500 คน 82 ครัวเรือน ส่วนใหญ่มีฐานะยากจนมาก ในหน้าหนาวปี 2551 นี้ โครงการช่วยน้องไม่ต้องหนาว จะอาสานำน้ำใจจากผู้บริจาคทุกท่าน ไปแบ่งปันให้สมาชิกชุมชนบ้านผาแดงหลวงได้อบอุ่นทั้งกายและใจ

น้องๆ ต้องการ
-เครื่องนุ่งห่มกันหนาว ยารักษาโรค
-ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน
-เงินบริจาค (ทุกบาท ทุกสตางค์ จะนาไปซื้ออุปกรณ์ และสิ่งของจาเป็นที่ขาดเหลืออื่นๆ หรือตามที่ผู้บริจาคระบุหลังจากหมดเขตรับของบริจาค)

ช่วงเวลาใจดี
ตั้งแต่บัดนี้ จนถึง 25 พ.ย. 2551

วันเดินทาง
5 - 6 ธันวาคม 2551

ติดต่อเรา
สานักงานใหญ่ (เชียงใหม่): 199/67 หมู่3 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50100
เกียรติพงษ์ คาหล้า(โอ๋)โทร. 08-4042-3931 / 08-7657-5664
ผณิตา ไชยศร (กี๊ก) โทร. 08-0501-6819
ศศิกานต์ ลิมปิติ (ปาล์ม) โทร. 08-9700-9159
อัมพิกา สุวรรณบุตร (เจน) โทร. 08-3205-9510
ปิยะ เสียมภักดี (โอ) โทร. 08-9482-6557
วีรภัทร วิไลศิลปดีเลิศ (เอ้) โทร. 08-9170-7718
ศุภทัต แดงเครื่อง (ทัต) โทร. 08-9759-9009
ศูนย์ประสานงานกรุงเทพฯ:
ธนกฤต อิทธิกมลเลิศ (น้อง) โทร. 08-5109-1719
ศูนย์ประสานงานออสเตรเลีย:
วรัท - ลินดา วินิจ (โอ - หลิน) โทร. +61 431202852, +61 433061999
ศูนย์ประสานงานสหรัฐอเมริกา:
วิรัลดา ภูตะคาม (นิก) โทร +1 6507047632

บริจาคเงินได้ที่ :
ชื่อบัญชี โครงการช่วยน้องไม่ต้องหนาว
ประเภทบัญชีออมทรัพย์
ธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หมายเลขบัญชี 667-0-06542-1

Email: kidsdream.p@gmail.com

ช่วยน้องไม่ต้องหนาว ครั้งที่ 3 
นอกเหนือจากการบริจาค...คุณก็มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเด็กๆครั้งนี้ได้ โดยกระจายข่าวไปยังผู้ใจบุญทุกท่าน
1) นำ code นี้ไปแปะไว้ที่เวบไซต์หรือบลอคของคุณ
 

2) ส่งต่อเรื่องนี้ E-mail this!

11/08/2551 | Posted in , | Read More »

Newsletter - November 2008

ข่าวประชาสัมพันธ์

IJDEA-logoข่าวดีสำหรับดีไซน์เนอร์และผู้ที่รักการออกแบบเครื่องประดับ เชิญร่วมส่งผลงานการออกแบบเข้าประกวดในงาน International Jewellery Design Excellence Award 2009 อ่านต่อ...

 

icon_pin เชิญชมนิทรรศการและร่วมโหวตผลงานเครื่องประดับในการประกวด "GIT Gem & Jewelry Design Award 2008" ชิงรางวัลสร้อยแพลตินัมพร้อมจี้พลอยแท้ มูลค่ากว่า 20,000 บาท ระหว่างวันที่ 17 - 23 พฤศจิกายน 2551 ณ ศูนย์การค้า CentralWorld อ่านต่อ...

อบรม-สัมมนา
icon_pin 12 พฤศจิกายน 2551 "กลยุทธ์การออกบู๊ทและงานอีเวนท์อย่างไร ให้ประสบความสำเร็จ รุ่น2" รายละเอียด l ใบสมัคร
icon_pin 17 พฤศจิกายน 2551 "พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ... ต้องฉลาดลงทุน"
รายละเอียด l ใบสมัคร (หมดเขตรับสมัคร 12 พ.ย. 51)
icon_pin 29 พฤศจิกายน 2551 "การพัฒนาพนักงานขายหน้าร้าน รุ่นที่6"
รายละเอียด l ใบสมัคร

ตำแหน่งงาน
icon_pin Regal Jewelry Manufacture Co., Ltd รับสมัครตำแหน่งรองหัวหน้าแผนกคัดคุณภาพพลอย อ่านต่อ...
icon_pin Regal Jewelry Manufacture Co., Ltd รับสมัครตำแหน่งVice Marketing Manager  อ่านต่อ...
icon_pin ค้นหาตำแหน่งงานอื่นๆในธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ

แนะนำเวบไซต์ใหม่
gems-market เวบประมูลพลอยและเครื่องประดับสายเลือดไทย สามารถเปิดร้านขายพลอยออนไลน์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ลงทะเบียนวันนี้...ฟรีค่าธรรมเนียม

Always PoP Shop พื้นที่แห่งใหม่ในการแบ่งปันสิ่งของทั้งมือหนึ่งมือสอง เน้นแบรนด์ยอดนิยม ของแท้ และสภาพดีเท่านั้น

ชมรมอัญมณี
icon_pin GemClub CMU. รับสมัครทีมงาน สนใจติดต่อ gemclubcmu@gmail.com
icon_pin ร่วมโหวตให้กับหัวข้อที่ต้องการให้เพิ่มและปรับปรุงเนื้อหาของ GemClub CMU.
icon_pin ต้องการลงโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ติดต่อที่ gemclubcmu@gmail.com ไม่เสียค่าใช้จ่าย!!!
icon_pin อัพเดตข่าวสารจาก GemClub CMU. ง่ายๆทางอีเมล์ทุกวันตอนบ่ายสามโมง แค่สมัคร ที่นี่

11/04/2551 | Posted in , , , , | Read More »

ความคิดเห็นล่าสุด

บทความล่าสุด