Loading
250x250 Free Watch

สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารทางอีเมล์:

กรุณาตรวจสอบอีเมล์เพื่อยืนยันหลังจากทำการสมัคร

โพสล่าสุด

แบ่งปัน

วิธีเลือกเครื่องประดับสำหรับมือใหม่

20270

เทคนิคง่ายๆที่ใช้ได้ผลดีก็คือ ให้เริ่มจากเลือกดีไซน์และรูปทรงที่สามารถใส่ได้กับเสื้อผ้าหลายแบบ จากนั้นจึงค่อยเลือกหาเครื่องประดับชิ้นที่มีดีไซน์และสีสันแปลกๆ ให้ความรู้สึกถึงแฟชั่นมาใช้ โดยสร้อยคอ ต่างหูห่วง และสร้อยข้อมือแบบโซ่ เป็นเครื่องประดับกลุ่มแรกที่ควรมีไว้ เพราะนอกจากจะใช้ได้หลากหลายโอกาสแล้ว ยังสามารถพัฒนาเป็นสไตล์ของตนเองต่อไปได้อีก โดยการเลือกเครื่องประดับอื่นๆมาเสริม เช่น จี้รูปแบบต่างๆ หรือ ต่างหูแบบอื่นๆ

 

ส่วนเครื่องประดับเพชร ควรเป็นต่างหูกับจี้เพชรเม็ดเดี่ยว ซึ่งเป็นดีไซน์ที่คลาสสิค

 

และอย่าลืมคำนึงถึงรูปร่างของเราด้วย เช่น หากเป็นคนตัวเล็กก็ควรเลือกสร้อยคอที่มีความยาวเลยหน้าอกแต่ไม่เกินข้อมือ เพื่อช่วยให้ช่วงตัวดูยาวขึ้น ในขณะที่คนสูงมากๆ ควรเลือก choker ส่วนคนที่รูปร่างท้วมหรือตัวใหญ่ไม่ควรใส่เครื่องประดับชิ้นเล็กๆ

สิ่งสำคัญในการเลือกเครื่องประดับก็คือ เลือกชิ้นที่ใส่แล้วสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างสะดวก ช่วยเสริมความมั่นใจและทำให้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ขั้นตอนต่อไปก็คือ การพัฒนาสไตล์ของตนเอง ซึ่งกุญแจสำคัญคือ “ต้องรู้จักตัวเอง” นั่นคือ รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร และยังต้องอาศัยความคิดเห็นจากผู้อื่นที่มีต่อการแต่งตัวของเราด้วย เพื่อให้เราสามารถเลือกเครื่องประดับที่ดูดีที่สุดสำหรับเรา

อ้างอิง Jewelry.com

 

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

Jewelry Do’s and Don’t

12/30/2551 | Posted in , , , | Read More »

ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่

ทิ้งท้ายสำหรับปีนี้ด้วยบทบรรณาธิการจากนิตยสาร Haper’s BAZAAR ฉบับเดือนมกราคม 2552 โดยคุณกุสุมา ไชยพร ซึ่งทำให้เกิดแรงบันดาลใจและกำลังใจในการใช้ชีวิตสำหรับปีใหม่นี้

หากกล่าวถึงความสวยสง่า เรามักนึกถึงคำคมของดีไซเนอร์ชั้นนำ และสุภาพสตรีแนวหน้าของโลกได้ฝากไว้ เราชื่นชอบคำพูดของชาเนลเกี่ยวกับความสง่างาม “ความสง่างามคือการปฏิเสธที่จะทพตามๆกัน หรือดูเหมือนใครๆ” อีกทั้ง “ความสง่างามนั้น ไม่ได้หมายถึงการใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา” หากแต่รู้จักการผสมผสานเสื้อผ้าและเครื่องประดับเข้าด้วยกันอย่างมีรสนิยมต่างหาก ถึงจะเรียกว่ารู้จักการแต่งกาย

คริสเตียน ดิออร์ ก็ให้คำจำกัดความไว้ว่า “ความสง่างามที่แท้จริง ก็คือการผสมผสานที่ลงตัวของความโดดเด่น ความเป็นธรรมชาติ และความเรียบง่าย” แม้กระนั้นผู้ที่จะทำให้เสื้อผ้าโดดเด่นยามเยื้องกรายจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากผู้สวมใส่ ที่รวมไปถึงบุคลิก ท่วงท่า และทัศนคติในการดำรงชีวิต อย่างที่อีฟส์ แซงต์ โลรองต์ยืนยันจากประสบการณ์จากการออกแบบเสื้อผ้า พร้อมเตือนไว้ว่า “อย่าได้สับสนระหว่างความสง่างามและความถือตัวตนเป็นอันขาด” (เพราะเป็นคนละเรื่องกันเลย)

เราขอต้อนรับปีใหม่ด้วยคำพูดของออเดรย์ เฮปเบิร์น สาวสวยผู้มีสไตล์ตลอดกาล ที่กล่าวถึงความงามได้อย่างจับใจว่า “หากอยากมีนัยน์ตาที่งดงาม ให้มองผู้อื่นแต่ในด้านดี หากอยากมีเรียวปากที่สวยสด ให้พูดถึงแต่สิ่งที่ดีงาม”

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

ภาพจาก Haper’s BAZAAR

12/30/2551 | Posted in | Read More »

Luxury Jewel Gadgets











อัพเดตกันต่อกับ gadget หรูหราที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นด้วย USB Jewel Thumbdrive 4 GB โดย Brando ที่ทำออกมาทั้งหมด 4 สี คือ ม่วง ฟ้า เหลือง และเขียว ความเก๋ของ thumbdrive ตัวนี้อยู่ที่สามารถดัดแปลงให้เป็นจี้ และคล้องโทรศัพท์ได้ โดยมีสร้อยคอกับโซ่คล้องโทรศัพท์ขายมาด้วยเป็นแพคเกจ  ในราคา $39

 

หรือจะเป็นรุ่น Classical 4 GB ที่ประดับด้วยคริสตัลแวววาว มาพร้อมกับสร้อยคอและโซ่คล้องโทรศัพท์ ราคา $39

24K Gold & Sapphire Apple MacBook Air  เครื่องแรกในโลกที่มีการนำทอง 24K มาเคลือบผิว case ราคาเริ่มต้นสำหรับ case ทองคำนี้อยู่ที่ $1,200 - $1,500 ส่วนโลโก้ของ Apple ทำจากทองคำ 14K ประดับด้วยแซฟไฟร์สีต่างๆ จำนวน 86 เม็ด น้ำหนักรวม 3.8 กะรัต โดยจะต้องเพิ่มเงินอีก $3,000 สำหรับโลโก้ชิ้นนี้

สำหรับสาวๆ Pama 7008 Silver and Pink Diamante Bluetooth Headset ที่มาพร้อมกับสายคล้องคอชิ้นนี้อาจจะเป็นเครื่องประดับสุดเริ่ดได้อีกชิ้นหนึ่ง ด้วยนำหนักที่เบาเพียง 12.7 กรัม และตะขอที่คล้องหูทำจากยางที่ยืดหยุ่นได้ดี จึงสามารถปรับให้กระชับกับหูได้ง่ายดาย ความสามารถที่เริ่ดของบลูทูธชิ้นนี้ก็คือ สามารถสนทนาได้ต่อเนื่องถึง 5 ชั่วโมง สแตนบายได้ยาวนาน 200 ชั่วโมง และสามารถรื่นรมย์กับการฟังเพลงได้ ด้วยระบบเสียงคุณภาพที่คมชัด

ข้อมูลจาก computer-choppers.com , Gadgets review

12/29/2551 | Posted in , , , , , , | Read More »

Dior phone diamond

Dior Phone Diamondsที่ผ่านมาเราคงเห็นอยู่บ่อยๆว่าอัญมณีถูกนำมาประดับตกแต่งอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ เช่น ipod และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งดีไซน์เนอร์แบรนด์หรูต่างๆ ก็ก้าวเข้ามาจับตลาดสินค้าโทรศัพท์มือถือเหล่านี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Prada, Dolce&Gabbana และ Armani โดยจะเน้นการดีไซน์ให้หรูเริ่ดเข้าไว้ ส่วนปรากฎการณ์ใหม่ล่าสุดของวงการมือถือระดับ Hi-end ในตอนนี้ก็คงจะเป็น โทรศัพท์มือถือของ Dior รุ่น Gloroius Black ฝาพับสแตนเลส ตัวเครื่องประดับด้วยเพชรจำนวน 641 เม็ด หนักรวม 3.251 กะรัต และยังมีแซฟไฟร์สีดำอีก 34 เม็ด สนนราคา $28,000

สำหรับรุ่นที่ราคาย่อมเยาลงมาหน่อย (แต่ก็เริ่มต้นที่ $8,160) ก็มีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ Pure White, Mirror Grey, Happiness Pink และ Dazzing Red โดยวัสดุที่ใช้เป็นคริสตัลแซฟไฟร์จาก Swarovski

ข้อมูลและภาพจาก Dior

12/27/2551 | Posted in , , , , , , | Read More »

The Knot –The#1 wedding website

 The Knot เป็นเวบไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนแต่งงาน ถึงจะไม่ใช่เวบไซต์อัญมณีและเครื่องประดับโดยตรง แต่เจ้าสาวก็ต้องเลือกใช้เครื่องประดับในวันงาน และต้องเตรียมการสำหรับแหวนหมั้นและแหวนแต่งงาน ซึ่ง The Knot ก็มีเทคนิคที่นำไปใช้ได้จริง รวมถึงมีแอพพลิเคชั่นดีๆที่ให้เราสามารถออกแบบแหวนได้ด้วยตนเองและพริ้นท์ออกมาดูได้ ข้อมูลเกี่ยวกับการแต่งงานก็น่าสนใจ มีพื้นที่ฟรีสำหรับเก็บข้อมูล รูปภาพ วางแผนการแต่งงาน และเวบไซต์ส่วนตัวให้เพื่อนๆเข้าไปติดตามและลงชื่ออวยพรได้ด้วย ใครกำลังมองหาไอเดียสำหรับจัดงานแต่งงาน เข้ามาเวบนี้รับรองเลือกไม่ถูกแน่ๆ เพราะรวบรวมตัวอย่างการจัดงานเจ๋งๆไว้เพียบ

12/26/2551 | Posted in , | Read More »

Engagement Ring Trends

แหวนหมั้นแบบเพชรเม็ดเดี่ยวถือว่าเป็นแบบยอดนิยมและคลาสสิคตลอดกาล แต่ก็ยังมีแบบอื่นๆอีกหลายแบบที่น่าสนใจและกำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้

แบบที่ 1 พลอยสี

ในช่วงนี้หากสังเกตดีๆจะพบว่า แหวนหมั้นของเหล่าดาราฮอลีวู้ดมักจะใช้พลอยเป็นเม็ดกลาง ล้อมรอบด้วยเพชร ซึ่งในความจริงแล้วแหวนหมั้นที่ใช้พลอยแบบนี้มีมาตั้งนานแล้ว ส่วนใหญ่มักจะเป็นไพลิน ทับทิม หรือมุก ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ

 

แบบที่ 2 แหวนล้อมเพชร

แหวนเพชรเหลี่ยมเกสรล้อมด้วยเพชรก็คงจะธรรมดาไป ลองเปลี่ยนรูปแบบให้ดูมีสไตล์ยิ่งขึ้นเหมือนกับภาพแหวนตัวอย่าง รูปทรงที่แปลกตาของเพชรเม็ดกลางประกอบกับเพชรเม็ดเล็กๆที่ล้อมรอบจะช่วยสร้างประกายความโดดเด่นได้มาก

 

แบบที่ 3

ดีไซน์ตัวเรือนแหวนแบบใหม่ล่าสุดที่ทำให้ดูเหมือนว่าวางเพชรไว้บนขอบแหวน ซึ่งจะช่วยเสริมให้เพชรโดดเด่นยิ่งขึ้น

 

แบบที่ 4 เกลียวผูกพัน

เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับแหวน ดีไซน์แบบให้เป็นเกลียวจึงถูกนำมาใช้ ทำให้แหวนดูนุ่มนวลและอ่อนโยนขึ้นมาก

 

แบบที่ 5 สไตล์วินเทจ (Vintage)

เป็นแบบที่คลาสสิคและไม่ตกยุค ดีไซน์ที่ปราณีตแบบนี้ทำให้แหวนดูมีเรื่องราวและมีคุณค่าทางจิตใจ

 

แบบที่ 6 เป็นมิตรกับธรรมชาติ

สำหรับนักอนุรักษ์คงจะภาคภูมิใจหากได้ครอบครองแหวนหมั้นเพชรที่ทำจาก conflict-free diamond และตัวเรือนที่ได้จากการรีไซเคิลโลหะที่ใช้ทำตัวเรือน

ข้อมูลและภาพจาก The Knot

12/25/2551 | Posted in , , , , , , , , , , | Read More »

ทองคำเผชิญความผันผวนหนักตามวิกฤตเงินโลก

610x สถานการณ์ราคาทองคำตลอดทั้งปี 2551 ต้องเผชิญกับการ "แกว่งตัว" ทั้งขาขึ้นและขาลงอย่างรุนแรง  สาเหตุมาจากการเก็งกำไรของกองทุนต่างประเทศและความผันผวนของตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก ที่มีผลจากวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ที่มีผลลุกลามไปสู่การถดถอยของเศรษฐกิจโลก นับแต่ช่วงต้นปีถึงกลางเดือนมี.ค.2551 ถือว่าเป็นช่วง "ขาขึ้น" ของราคาทองคำ  เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่ร่วงลงและราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น ประกอบกับความกังวลเรื่องความเสี่ยงเงินเฟ้อที่สูง จนทำให้บรรดากองทุนเก็งกำไร (Hedge Funds) ต่างเทขายสินทรัพย์ที่เป็นเงินดอลลาร์ฯ ออกมา รวมถึงออกจากตลาดหุ้น และหันเข้าซื้อสัญญาและลงทุนในทองคำมากขึ้น เหล่านี้เป็นปัจจัยหนุนทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้น จนกระทั่งทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,032.70 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2551


แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา ราคาทองคำเกิดความผันผวนและปรับทิศเป็นขาลง เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้น ราคาน้ำมันดิบร่วงลง และวิกฤตการณ์การเงินได้ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยในช่วงเดือนเม.ย - ก.ค. 2551  เกิดภาวะความผันผวนขึ้นลงของราคาทองคำค่อนข้างแรง หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐฯเผชิญกับความผันผวนค่อนข้างมาก ทำให้นักลงทุนโยกเงินไปมาระหว่างสินทรัพย์เงินสกุลดอลลาร์ฯ กับทองคำ  จนส่งผลให้ราคาทองคำ "แกว่งตัว" รุนแรง จากนั้นตั้งแต่กลางเดือนก.ค.2551 จนถึงต้นเดือนก.ย.2551  ราคาทองคำต้องเผชิญกับทิศทาง "ขาลง" จนกระทั่งมาสู่จุด "ต่ำสุด" ในเดือนต.ค.2551 ที่ระดับ 700 ดอลลาร์/ออนซ์  ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2551

ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำปรับลงไปนั้น เป็นผลจากแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลงตามการดิ่งลงของราคาน้ำมัน การฟื้นตัวของเงินดอลลาร์ฯ การเก็งกำไรของกองทุนต่างประเทศ และการเทขายทองคำของธนาคารกลาง ผลของการดิ่งตัวของราคาทองคำ ได้ทำให้คนไทยมีความต้องการเข้ามา "เก็งกำไร" ในทองคำมากขึ้นมากขึ้นกว่าในอดีต จนกระทั่งร้านค้าทองคำ "ขาดสต๊อก" หรือไม่มีทองคำจำหน่ายให้แก่ลูกค้าเพียงพอ จังหวะที่ราคาทองคำลงมามากๆ  ร้านทองต้องออก "ใบจอง" ให้แก่ลูกค้า  เนื่องจากทองคำในสต๊อกมีไม่เพียงพอ และต้องใช้ระยะเวลาในการนำเข้าเพิ่ม ขณะเดียวกันสมาคมค้าทองคำได้ออกหนังสือ "ปิดทำการ" ซื้อขายทองคำแท่งในวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ เริ่มวันแรกเมื่อ 25 ต.ค.2551 ไปจนกว่าราคาทองคำจะเป็นปกติ  เพื่อต้องการให้ความเป็นธรรมทั้งการซื้อและขายที่จะได้มีราคาอ้างอิงที่ถูกต้องในวันทำการปกติ  เพราะขณะนี้ทั่วโลกไม่มีการซื้อขายทองแท่งในวันเสาร์และอาทิตย์ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเสียเปรียบได้

อย่างไรก็ตาม แม้ทั่วโลกทองคำได้ขาดตลาด แต่ราคาทองคำยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เนื่องจากเกิดการเก็งกำไรทองในตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์ก สำหรับแนวโน้มของราคาทองคำในอนาคตนั้น ได้มีการคาดการณ์ว่าแม้ราคาทองคำอาจจะมีปัจจัยหนุน แต่ก็จะยังคงต้องเผชิญกับความผันผวนสูง

47130-gold1 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ปัจจัยที่ยังคงต้องติดตามต่อไป ได้แก่ ปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ จากการขาดสภาพคล่อง ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามเสนอแผนกู้วิกฤตภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งเพิ่งผ่านการพิจารณาของรัฐสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 3 ต.ค.2551 และจากผลของปัญหาวิกฤตการเงินในครั้งนี้ ได้ขยายวงกว้างออกไป จึงทำให้อาจต้องใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หรือ 1 ปี จนกว่าปัญหาดังกล่าวจะลงไปสู่จุดที่เลวร้ายที่สุด ประกอบกับข่าวร้ายของตลาดการเงินสหรัฐฯที่อาจจะมีตามมาอีก อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันและหนุนให้ราคาทองคำทะยานตัวขึ้นมาได้อีก
นอกจากนี้ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นของผู้ซื้อทองรายใหญ่ที่สุดในโลก(อินเดีย) ในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค. ของทุกปี น่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันราคาทองคำให้สูงขึ้นไปได้ โดยใน ช่วงท้ายปี 2551 เริ่มมีความวิตกกังวลกันว่า โลกกำลังตกอยู่ใน "ภาวะเงินฝืด" ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ มากกว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกการเกษตร ซึ่งมักจะได้รับผลกระทบน้อยสุดเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวลง เทียบกับสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกโลหะอุตสาหกรรมและพลังงาน

อย่างไรก็ตาม ผลจากการ "ปรับลด" อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2551ประกาศลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงอีก 0.75-1.0% สู่ระดับ 0-0.25% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบกว่า 50 ปี ส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง  ทำให้นักลงทุนกลับเข้ามาเก็งกำไรทองคำ จนดันราคาทองคำปรับตัว "เพิ่มขึ้น" อีกครั้ง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2551 ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กอยู่ที่ 869.25ดอลลาร์/ออนซ์  ส่วนราคาทองคำแท่งในไทย เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2551 ราคาขายอยู่ที่บาทละ 13,800 บาท


ในด้านการลงทุนในทองคำ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเตือนว่า  การเข้าไปลงทุนในลักษณะการเก็งกำไรยังคงมีความเสี่ยงสูง โดยผู้ลงทุนรายย่อยต้องพึงระมัดระวังความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาทองคำ เนื่องจากถ้าเข้าไปซื้อขายผิดจังหวะก็อาจจะมีโอกาสขาดทุนได้ กอปรกับตลาดซื้อขายทองคำมีสภาพคล่องค่อนข้างจำกัด ดังนั้นการลงทุนในทองคำเพื่อที่จะได้ผลกำไร ควรที่จะเป็นการลงทุนในระยะยาวมากกว่าการเข้าไปเก็งกำไรในระยะสั้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยย้ำว่า ผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนในทองคำ ควรจะศึกษาถึงผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินดอลลาร์ฯ ราคาน้ำมัน หรือภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก ฯลฯ เพื่อจะสามารถคาดการณ์ทิศทางของราคาทองคำให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและได้ผลตอบแทนระยะยาวที่คุ้มค่า

12/25/2551 | Posted in , , , , | Read More »

Jewelry trends for winter 2008-2009

คำแนะนำในการเลือกใช้เครื่องประดับสำหรับหนาวนี้ โดยกูรูแฟชั่นจาก Millionlooks.com

สี (Color)

…เครื่องประดับสีพาสเทล
โดยปกติแล้ว สีพาสเทลจะถูกใช้ในช่วงหน้าร้อนหรือใบไม้ผลิ แต่สำหรับหนาวนี้เครื่องประดับสีพาสเทลจะช่วยสร้างลุคของหญิงสาวแสนหวานได้เป็นอย่างดี โดยสีที่แนะนำ ได้แก่ เครื่องประดับที่มีส่วนผสมของสีม่วงลาเวนเดอร์ ชมพู และขาว หรืออาจจะเป็นเครื่องประดับสีเข้มที่มีสีพาสเทลผสมอยู่ก็ได้

การใช้เครื่องประดับสีพาสเทลให้ดูโดดเด่นก็คือ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีเข้มในโทนสีอบอุ่น โดยสีที่จะมาแรงก็คือ สีน้ำตาลเข้มชอคโกแลต และสีงาช้าง

black onyx and blue chalcedony necklace เครื่องประดับพลอยสีสด
เลือกใช้พลอยสีสดๆอย่างเหลืองเข้มและส้ม จากเพชรสีcanary (Canary diamond) ซิทริน (Citrine) เพทายสีเหลือง (Yellow zircon) บุษราคัม (Yellow sapphire) หรือบราซิลเลี่ยน โทพาซ (Brazilian topaz)

สีฟ้าจากความารีน (Aquamarine) และโทพาซ (Topaz) ก็เหมาะที่จะเลือกใช้

สีที่อมตะสำหรับแฟชั่นอย่างสีดำก็สามารถนำมาใช้ได้ ตัวอย่างของอัญมณีสีดำ ได้แก่ โอนิก (Black onyx) และเพชร (Black diamond)

 


 

 

rebecca norman hammered disk earrings โลหะ (Metal)

เครื่องประดับเงินเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับฤดูหนาว เนื่องจากไปกันได้ดีกับสีที่เป็นทางการอย่างสีขาวและดำ แต่สำหรับในปีนี้ทองคำจะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องประดับทองที่มีพลอยสีเข้มขนาดใหญ่

นอกจากทองแล้ว ยังมีทองแดงและเฮมาไทต์ (Hematite) ที่อยู่ในรูปทรงที่หลากหลาย เช่น หกเหลี่ยม สี่เหลี่ยม กลม ห่วง รูปไข่ และรูปทรงอสมมาตรต่างๆ หรือเป็นเครื่องประดับที่ทำจากโลหะชนิดต่างๆผสมผสานกัน

 

 

 

 

 

Handmade Charoite & Genuine Amethyst Sterling Silver Designer Pendant หิน (Stones)

กระแสฮิตของเครื่องประดับหินชิ้นใหญ่ๆยังคงมาแรงอยู่ โดยเฉพาะจี้ชิ้นใหญ่สีสันสดใสที่จะดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดี และกำไลหรือสร้อยข้อมือเส้นใหญ่ๆ ที่ทำมาจากหินหรือพลอยเนื้ออ่อน

หลักการของการใช้เครื่องประดับชิ้นใหญ่ก็คือ เลือกชิ้นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น

สไตล์ธรรมชาติ (Natural style)

ธรรมชาติจะมีอิทธิพลต่อการกำหนดรูปแบบของเครื่องประดับ อย่างเช่น สี ลวดลาย และวัสดุที่ใช้ เช่น สีฟ้า สีฟ้าน้ำทะเล สีน้ำตาล สีทราย ซึ่งได้จากพลอยเนื้ออ่อน เปลือกหอยต่างๆ เทอร์ควอยซ์ (Turquoise) อาเกต (Agate) หยก (Jade)

ลูกปัดที่ทำจากแก้ว ไม้ กระดูก ก็จะถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องประดับด้วยเช่นกัน

 

ข้อมูลจาก Millionlooks.com

12/24/2551 | Posted in , , , , , , , , , , , , , , | Read More »

เรียนรู้ก่อนซื้อเครื่องประดับทอง

ทองคำเป็นเครื่องประดับที่ไม่มีวันล้าสมัย นั่นเพราะทองคำมีความสวยงามทุกครั้งเมื่อสวมใส่ ทองคำบริสุทธิ์จะไม่ทำปฎิกิริยากับธาตุอื่นๆที่ทำให้เกิดความหมอง ในกรณีของการแพ้ทองคำนั้นเกิดจากการแพ้โลหะชนิดอื่นๆที่ผสมลงไปในทองคำ แต่ทองคำเองก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน แต่พบได้น้อยมาก

ทองคำเป็นโลหะที่สามารถขึ้นรูปได้หลากหลายแบบ แม้จะถูกรีดให้เป็นเส้นบางๆก็จะไม่ขาดได้ง่ายๆ ทองคำหนึ่งออนซ์สามารถทำให้เป็นแผ่นบางๆได้พื้นที่ถึง 10 ตารางเมตร ด้วยคุณสมบัติพิเศษนี้ จึงทำให้ทองคำสามารถนำไปสร้างสรรค์ผลงานได้มากมาย

ความบริสุทธิ์ของทองคำ
เวลาที่ซื้อทองเรามักจะพบตัวเลข 18K 14K หรือ 10K ซึ่งตัวอักษร K จะหมายถึง กะรัต เป็นหน่วยที่ใช้บอกเปอร์เซนต์ของทองคำที่มีอยู่ในเครื่องประดับชิ้นนั้นๆ ยิ่งตัวเลขสูงก็แสดงว่ามีทองคำอยู่มาก ที่พบเห็นกันทั่วไป ได้แก่
…24K เป็นทองคำ 99.99%
…18K มีทองคำเป็นส่วนประกอบอยู่ 18 ส่วนหรือ 75% อีก 6 ส่วนเป็นโลหะชนิดอื่น
…14K มีทองคำเป็นส่วนประกอบอยู่ 14 ส่วนหรือ 58.3% อีก 10 ส่วนเป็นโลหะชนิดอื่น
…12K มีทองคำเป็นส่วนประกอบอยู่ 12 ส่วนหรือ 50% อีก 12 ส่วนเป็นโลหะชนิดอื่น
…10K มีทองคำเป็นส่วนประกอบอยู่ 10 ส่วนหรือ 41.7% อีก 14 ส่วนเป็นโลหะชนิดอื่น โดยในสหรัฐอเมริกาจะถือว่าทอง 10K เป็นกะรัตที่น้อยที่สุดที่สามารถเรียกว่าทองคำได้ ถ้าต่ำกว่านี้จะไม่ถือว่าเป็นทองคำ และจะเรียกว่า Solid gold

ความนิยมในแต่ละพื้นที่ก็จะแตกต่างกันไป อย่างเช่น
…ทอง 24K เป็นที่นิยมในไทย จีน ฮ่องกง และอินโดนีเซีย และยังมีการใช้ทอง 96.5% มาจำหน่ายเป็นทอง 24K ด้วย
…อินเดียและตะวันออกกลางจะนิยมทอง 22K
…ในแถบยุโรป เช่น อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์จะไม่นิยมทองที่มีสีเข้มมากนัก ทอง 18K จึงเป็นที่นิยม ในขณะที่อังกฤษและเยอรมันนิยมทอง 14K
…สหรัฐอเมริกาก็เช่นเดียวกันกับยุโรป คือ ไม่นิยมทองที่มีเข้ม ความนิยมจึงอยู่ที่ทอง 18K และ 10K
…ทองที่มีเปอร์เซนต์ทองต่ำกว่าทอง 10K อย่าง 9K ที่ใช้ในอังกฤษ และ 8K ที่ใช้ในเยอรมัน ก็ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นทองคำ

ในสหภาพยุโรปไม่ได้ระบุหน่วยของทองคำเป็นตัวเลขและตามด้วย K แต่จะใช้ตัวเลขเปอร์เซนต์แทน เช่น ทอง 18K จะระบุว่า 750 ซึ่งหมายถึงทองคำ 75% หรือ 417 สำหรับทองคำ 10K ที่หมายถึงมีทองคำ 41.7% นั่นเอง

นอกจากตัวเลขที่ระบุถึงสัดส่วนของทองคำในเครื่องประดับแล้ว ยังอาจสังเกตเห็นสัญลักษณ์อื่นๆอีกด้วย เช่น เครื่องหมายการค้าของผู้ผลิต หรือประเทศผู้ผลิต เป็นต้น

ทำไมต้องผสมโลหะอื่นๆลงไปในทองคำ
เนื่องจากทองคำมีความอ่อนเกินไปที่จะสามารถทนทานต่อการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน โลหะอื่นๆที่เพิ่มลงไปจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงทนทานมากขึ้น และยังทำให้ราคาของเครื่องประดับต่ำลงด้วย

การเติมโลหะอื่นลงไปมีผลต่อสีทองคำ อย่างการเติมพัลลาเดียม (Palladium) หรือนิกเกิล (Nickel) จะทำให้ทองคำเปลี่ยนเป็นทองคำขาว ถ้าเติมทองแดง (Copper) ก็จะได้ทองสีชมพู ในขณะที่เงิน (Silver) จะทำให้เกิดสีออกเขียวๆ

การชุบด้วยทองคำ
เป็นการลดต้นทุนที่ประหยัดได้มาก โดยยิ่งชุบให้มีความหนาของทองมากเท่าใด ก็จะทำให้มีความทนทานไม่หลุดลอกง่ายเท่านั้น

การเลือกซื้อเครื่องประดับทอง
หากปัจจัยสำคัญคือความทนทาน ควรเลือกที่มีสัดส่วนของทองคำไม่สูงมาก แต่สำหรับผู้ที่แพ้นิกเกิลหรือโลหะอื่นๆที่ผสมลงไป ควรเลือกที่มีสัดส่วนของทองคำสูงขึ้น เช่น 18K หรือ 22K

การสวมใส่เครื่องประดับทองชุบควรจะระมัดระวังในกรณีของผู้ที่แพ้โลหะ เนื่องจากถ้าทองที่เคลือบอยู่หลุดออกไป ก็อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้เมื่อผิวสัมผัสกับโลหะที่เป็นตัวเรือนได้

อ้างอิง : About.com , สมาคมค้าทองคำ

12/24/2551 | Posted in , , , , , , | Read More »

ทองคำ หรือ อสังหาริมทรัพย์ เอาชนะเงินเฟ้อได้ดีกว่า

ทำไมคนนิยมลงทุนในทองคำ?
ทองคำเป็นโลหะที่มีราคามาตรฐานสากล แลกเปลี่ยนเป็นเงินได้คล่องตัวกว่าโลหะอื่นๆ ทั้งยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องประดับไว้สวมใส่ หากไม่ชอบรูปแบบก็หลอมทำแบบใหม่ได้ ทำให้ทองคำได้รับความนิยม โดยเฉพาะในยามที่โลกมีความวุ่นวาย มีภาวะสงคราม ภาวะเงินเฟ้อสูง และค่าเงินมีความไม่แน่นอน แต่ก็ยุ่งยากในการเก็บรักษา หากท่านไม่ต้องการยุ่งยากในการเก็บรักษาก็สามารถลงทุนในกองทุนรวมทองคำ หรือซื้อทองคำในตลาดล่วงหน้าได้ การลงทุนในทองคำเหมาะสำหรับผู้ต้องการผลตอบแทนระยะยาวเป็นก้อน คือจะได้ผลตอบแทนพร้อมเงินลงทุนก็ต่อเมื่อขายออกไป


การลงทุนที่เอาชนะเงินเฟ้อได้จริงๆ คือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทให้เช่า เนื่องจากอัตราค่าเช่าจะสามารถปรับให้ขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อได้ คนจึงนิยมลงทุน แต่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และนำมาให้เช่าเองก็มีข้อยุ่งยากหลายประการ ทั้งยังต้องมีการบริหารจัดการการเช่าให้มีผู้เช่าอย่างสม่ำเสมอ คอยดูแลรักษาทรัพย์สินให้อยู่ในสภาพดี ซ่อมแซมส่วนที่เสียหายชำรุด และยังอาจมีผู้เช่าประเภทไม่ยอมจ่ายค่าเช่า
การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าจึงเป็นเรื่องยุ่งยากพอสมควร ในวันนี้มีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นทางเลือกให้ลงทุน ผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลอยู่ที่ประมาณ 6-9% ต่อปี และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ หากเป็นที่ซื้อขาดหรือหากเป็นสิทธิการเช่า ก็อาจมีโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่ม จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากค่าเช่า เหมาะกับผู้ต้องการผลตอบแทนเป็นงวดๆ เช่นผู้ที่เกษียณอายุงานหรือใกล้เกษียณแล้ว ลงทุนเพื่อเก็บเกี่ยวผลตอบแทนเป็นงวดๆ แทนรายได้ประจำที่เคยได้รับจากการทำงาน
แต่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรงอาจมีสภาพคล่องน้อย อยากจะขายที่ ขายบ้าน ต้องใช้เวลาขายนาน บางครั้งอาจจะถึงปีหรือหลายๆ ปี กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จะมีสภาพคล่องสูงกว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรง แม้ในปัจจุบันจะมีสภาพคล่องไม่สูงมากนัก อาจจะต้องใช้เวลาขายหลายวันกรณีขายจำนวนมาก แต่ก็ไม่ต้องใช้เวลาขายเป็นปี กองทุนบำนาญของต่างประเทศจึงนิยมลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กันมาก เพราะเหตุผลทางด้านผลตอบแทนและสภาพคล่องตามที่กล่าวมา

สำหรับทองคำนั้น ราคาทองคำไม่ได้สะท้อนอัตราเงินเฟ้อ และไม่มีข้อพิสูจน์ว่าเอาชนะอัตราเงินเฟ้อได้ เพราะในหลายๆ ครั้ง ราคาทองคำก็นิ่งอยู่หลายๆ ปี แต่เวลาขยับขึ้นก็ขยับขึ้นได้หลายปีเช่นกัน แต่เมื่อดูย้อนหลังไป 30 ปี ผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำยังชนะเงินเฟ้อ

ข้อมูลจาก วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ wiwan.t@kasikornbank.com  นสพ.กรุงเทพธุรกิจ

12/23/2551 | Posted in , , , | Read More »

Jewelry, The gift of love

ทำไมเครื่องประดับถึงเป็นของขวัญที่แสนวิเศษ? นั่นเพราะว่าเครื่องประดับสามารถถ่ายทอดความรักได้ ในขณะที่ดอกไม้จะเหี่ยวเฉา ขนมหวานถูกกินจนหมด การ์ดถูกทิ้ง แต่เครื่องประดับจะถูกใช้งานตราบนานเท่านาน และเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย

การใช้เครื่องประดับเป็นสื่อของความรักนี้เริ่มมาจาก Archduke Maximilian แห่งออสเตรีย ได้มอบแหวนหมั้นเพชรให้กับ Mary of Burgandy ผู้เป็นคู่หมั้นในปี 1477 แหวนวงนี้ได้สวมไว้ที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอ ด้วยความเชื่อของอียิปต์โบราณที่ว่า นิ้วนางข้างซ้ายมีเส้นเลือดที่แล่นเข้าสู่หัวใจ และนับแต่นั้นมาการมอบและสวมแหวนหมั้นที่นิ้วนางข้างซ้ายก็ได้กลายมาเป็นประเพณีจนถึงปัจจุบัน

อัญมณีแต่ละเม็ดนั้นมีความหายากและมีคุณค่าในตัวเอง ที่สำคัญคือ ไม่มีเม็ดใดในโลกที่เหมือนกันทุกประการ จึงเป็นของขวัญที่ล้ำค่า นอกจากนี้เครื่องประดับยังซ่อนความหมายที่ลึกซึ้งไว้ด้วย อย่างเช่น เครื่องประดับเพชรสามเม็ดจะหมายถึง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต  อัญมณีแต่ละชนิดก็มีความหมายและพลังที่ต่างๆกันไป ซึ่งจะช่วยให้ง่ายต่อการเลือกซื้อให้เหมาะกับผู้รับ เพราะไม่เพียงแต่จะได้รับของขวัญที่มีค่าเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความใส่ใจของผู้ให้ในการเลือกสรรของขวัญชิ้นสำคัญนี้ด้วย

อ้างอิง : Jewelry.com
ภาพประกอบ : Bvlgari

12/20/2551 | Posted in , , , | Read More »

Jewellry gift guide (1)

เข้าสู่ช่วงปลายปี ซึ่งหลายคนก็คงกำลังมองหาของขวัญเพื่อมอบให้แก่กันในช่วงเทศกาลที่กำลังจะมาถึง เครื่องประดับเป็นอีกทางหนึ่ง ซึ่งจะเป็นของขวัญที่มีคุณค่าและใช้ประโยชน์ได้ยาวนาน แต่การเลือกเครื่องประดับเป็นของขวัญนั้นมีเทคนิคบางประการที่ต้องคำนึงถึง เพื่อให้เหมาะสมและถูกใจผู้รับ

ต่างหู
แบบห่วงใหญ่เป็นแบบที่เหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่มีลำคอยาว ส่วนลำคอสั้น ห่วงเล็กๆหรือแบบ stud จะเหมาะมาก แต่ต่างหูที่ดีที่สุดและเหมาะที่สุดกับทุกๆคนก็คือ แบบ stud  ขอแนะนำต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยวซึ่งสามารถใช้ได้ในทุกโอกาส

สร้อยคอ
สำหรับผู้หญิงสูงอายุจะเหมาะกับสร้อยคอเส้นยาว ส่วนสาวๆสามารถใส่สร้อยคอได้ทุกระดับความยาว แต่มีเทคนิคเล็กๆน้อยๆอยู่ที่การเลือกโดยดูจากขนาดของลำตัว ถ้าเป็นคนเล็กสร้อยเส้นเล็กๆใส่แล้วจะดูดี ขณะที่ผู้หญิงตัวใหญ่ก็เหมาะกับสร้อยเส้นใหญ่ๆมากกว่า สำหรับความยาวสร้อยคอที่แนะนำในการเลือกซื้อเป็นของขวัญก็คือ 18 - 24 นิ้ว ซึ่งเป็นความยาวมาตรฐาน

สร้อยข้อมือ
กำไลชิ้นเล็กๆ เป็นของขวัญที่เพอร์เฟค คนที่ข้อมือเล็กใส่เพียงแค่ 1 หรือ 2 อันก็พอแล้ว สำหรับคนที่มีข้อมือใหญ่ควรใส่กำไลหลายๆอัน และเป็นโชคดีของคนกลุ่มนี้ที่เหมาะกับกำไลชิ้นใหญ่ที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้

แหวน
อาจจะเลือกยากตรงที่ต้องให้พอดีกับขนาดนิ้วของผู้รับ ซึ่งปัญหานี้แก้ไขได้โดยการวัดขนาดนิ้วก่อน หรือถ้าไม่สามารถทำได้ก็อาจจะเลือกแหวนชนิดที่สามารถปรับขนาดได้ แหวนที่ประดับพลอยทรงยาว เช่น พลอยรูปไข่ (oval) จะเหมาะกับนิ้วสั้น เพราะจะช่วยทำให้นิ้วดูยาวขึ้นได้

นอกจากดีไซน์แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ควรใช้ตัดสินใจร่วมด้วย

คุณภาพชิ้นงาน
หากราคาของสินค้าใกล้เคียงกัน ควรเลือกชิ้นที่มีคุณภาพดีที่สุด หรือเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพดีกว่า เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า

สี
หมายถึงโทนสีของเครื่องประดับที่ผู้รับชอบใส่ เช่น ทอง หรือ เงิน เพื่อทำให้เลือกซื้อได้เหมาะสมกับรสนิยมของผู้รับ

อาการแพ้โลหะ
เป็นสิ่งสำคัญมากที่ต้องพิจารณา เช่น ผู้รับที่แพ้โลหะนิกเกิล ก็ควรเลือกชิ้นงานที่ปราศจากนิกเกิล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกต่างหูเป็นของขวัญจะต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ ข้อแนะนำที่ดีสำหรับผู้แพ้โลหะ ก็คือ การเลือกเครื่องประดับที่ระบุว่า Allergy-free หรือเลือกโลหะแพลตินัมซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้เมื่อสวมใส่

ข้อมูลจาก About.com

 

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ทำอย่างไร...เมื่อแพ้เครื่องประดับโลหะ
Why Platinum?
Jewelry Do's and Don't

12/19/2551 | Posted in | Read More »

Clean and Care - แหวนเพชร

 

อย่างที่ทราบกันดีว่าเพชรมีความแข็งแกร่งที่สุด แต่ความเงางามของเพชรไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแข็ง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความสะอาด โดยเฉพาะเพชรที่ผ่านกระบวนการเพิ่มคุณภาพอย่างการเคลือบผิวหรืออุดรอยแตก การที่ใส่เครื่องประดับเพชรโดยไม่ได้ทำความสะอาดเลย จะทำให้เกิดการสะสมของคราบสกปรกมากขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลให้ความเงางามและประกายของเพชรลดลง เนื่องจากคราบสกปรกเหล่านี้จะสกัดกั้นการกระทบและสะท้อนแสงของเพชรนั่นเอง

วิธีการทำความสะอาดแหวนเพชรที่ง่ายและได้ผลดีที่สุด
1) แช่แหวนเพชรในน้ำอุ่นผสมแชมพูหรือสบู่ชนิดอ่อนโยน สำหรับเพชรที่มั่นใจว่าไม่ผ่านการอุดรอยแตก (fracture filling) สามารถใช้แอมโมเนียผสมน้ำทำความสะอาดได้ (ห้ามใช้แอมโนเนียกับเพชรที่ผ่านการอุด เพราะจะทำให้วัสดุที่ใช้อุดหลุดออกหรือเกิดเป็นคราบขุ่นมัว)
2) ถ้ามีคราบสกปรกฝังแน่นให้ใช้แปรงที่มีขนแปรงอ่อนนุ่มขัดเบาๆ ย้ำว่า...ขนแปรงอ่อนนุ่ม เพราะขนแปรงที่แข็งจะทำให้เกิดรอยบนผิวโลหะได้
3) แกว่งแหวนในน้ำสบู่ไปมา จากนั้นล้างด้วยน้ำอุ่น
4) เช็ดให้แห้งด้วยผ้าชนิดไม่มีขน

หากยังมีคราบหรือสิ่งสกปรกหลงเหลืออยู่ อาจจะใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าขัด หรือใช้ไม้จิ้มฟันแซะออกด้วยความระมัดระวัง

นอกจากการดูแลรักษาความสะอาดของแหวนเพชรอย่างสม่ำเสมอแล้ว ควรคำนึงถึงกิจกรรมที่ต้องทำในชีวิตประจำวันด้วย โดยเฉพาะการใช้สารเคมีต่างๆ เช่น สารเคมีที่ใช้ในการทำความสะอาด ซึ่งอาจจะทำอันตรายต่อแหวนได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกัน ควรถอดแหวนออกก่อน หรือสวมถุงมือทุกครั้ง

ภาพประกอบ dodevar.com

12/19/2551 | Posted in , , , , | Read More »

How to shop for gemstones

การเลือกซื้ออัญมณีหรือเครื่องประดับบางครั้งก็ทำให้ผู้ซื้อเกิดอาการสับสนได้ โดยเฉพาะราคาที่มีความแตกต่างกันมากทั้งๆที่สินค้ามีความใกล้เคียงกัน บางครั้งชื่อทางการค้าที่ใช้เรียกอัญมณีก็ทำให้สับสนได้เช่นกัน อย่างเช่น พลอยธรรมชาติ พลอยแท้ พลอยสังเคราะห์ พลอยเลียนแบบ เป็นต้น แต่ความไม่เข้าใจเหล่านี้สามารถขจัดออกไปได้ ด้วยการศึกษาความหมายเหล่านี้

พลอยธรรมชาติ (Natural gemstone)
คือ พลอยแท้ที่เกิดตามธรรมชาติ และนำมาเจียระไน ขัดเงา หรือเข้าตัวเรือนโดยไม่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพใดๆทั้งสิ้น

พลอยแท้ (Genuine gemstone)
พลอยแท้ก็คือพลอยธรรมชาติ แต่ได้ผ่านการเพิ่มหรือปรับปรุงคุณภาพของพลอยมาแล้ว เพื่อทำให้มีความสวยงามมากขึ้น การปรับปรุงคุณภาพพลอยมีอยู่หลายวิธี เช่น
arrow-pink การใช้ความร้อน (Heat treatment) หรือ ฉายรังสี (radiation) เพื่อเปลี่ยนสีหรือทำให้พลอยมีสีสวยงามขึ้น
arrow-pinkซ่านสี (diffusion) เพื่อให้พลอยมีสีเข้มขึ้น แต่สีที่เปลี่ยนไปนี้ จะอยู่ที่บริเวณผิวพลอยเท่านั้น
arrow-pinkอุดด้วยน้ำมันหรือขี้ผึ้ง (oil and wax) สำหรับพลอยที่มีรอยแตกที่ผิว
arrow-pinkอุดรอยแตก (fracture filling) ด้วย epoxy resin ใสหรือมีสี หรือวัสดุชนิดอื่นๆ เพื่อช่วยปรับปรุงความใสของพลอย กรณีที่มีรอยแตก
arrow-pinkยิงเลเซอร์ (laser drilling) เพื่อกำจัดมลทินภายในพลอย

พลอยที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพ อาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้เมื่อเวลาผ่านไป เช่น สีอาจจะซีดลง หรือ เกิดรอยแตกให้เห็นหากวัสดุที่ใช้อุดหายไป เป็นต้น แต่วิธีการปรับปรุงคุณภาพพลอยที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป คือ การใช้ความร้อน ซึ่งจะทำให้สีของพลอยเปลี่ยนไปอย่างถาวร หากเป็นไปได้ ควรสอบถามผู้ขายว่าพลอยได้ผ่านการปรับปรุงคุณภาพด้วยวิธีใด

พลอยธรรมชาติและพลอยแท้มีราคาแพงเสมอหรือไม่?
คำตอบคือ ไม่ใช่ทั้งหมด สำหรับพลอยที่มีคุณภาพต่ำไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ก็ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อพลอย ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพลอยไว้บ้าง

ราคาพลอยกำหนดจากอะไร?
พลอยก็เหมือนสินค้าอื่นๆ ที่ราคาจะขึ้นอยู่กับอุปสงค์ (demand) และอุปทาน (supply)  ตัวอย่างเช่น ทับทิมธรรมชาติ (natural ruby) คุณภาพสูง จะหายากและเป็นที่ต้องการของตลาดมาก เมื่อเปรียบเทียบกับพลอยสีแดงเช่นกันอย่าง โกเมน (garnet) ซึ่งมีความสวยงาม แต่ไม่ได้หายากเท่ากับทับทิม ทำให้โกเมนมีราคาต่ำกว่าแม้ว่าจะมีคุณภาพใกล้เคียงกันก็ตาม

การซื้อพลอยสังเคราะห์
พลอยสังเคราะห์มีคุณสมบัติเหมือนกับพลอยธรรมชาติ แต่สถานที่เกิดของพลอยสังเคราะห์นั้นคือ ห้องปฏิบัติการ พลอยสังเคราะห์จะถูกสร้างขึ้นโดยเลียนแบบกระบวนการตามธรรมชาติ โดยอาศัยส่วนประกอบทางเคมี เวลา และสภาวะการเกิดที่เหมาะสมเพื่อให้ได้พลอยชนิดที่ต้องการ พลอยสังเคราะห์ที่ทำจากวิธีการดั้งเดิมจะสามารถตรวจสอบได้ง่าย เนื่องจากจะมีความสมบูรณ์แบบมากเกินไป แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาวิธีการสังเคราะห์ให้ได้พลอยที่มีลักษณะใกล้เคียงกับธรรมชาติจนสามารถตรวจสอบได้ยากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้เชี่ยวชาญหรือนักอัญมณีวิทยาที่มีประสปการณ์

เครื่องประดับที่ทำจากพลอยสังเคราะห์จะมีความสวยงามเทียบเท่ากับพลอยธรรมชาติ โดยพลอยสังเคราะห์ที่มีคุณภาพดีก็จะมีราคาสูง แต่ราคาก็จะต่ำกว่าพลอยธรรมชาติที่มีระดับคุณภาพใกล้เคียงกันเล็กน้อย ปัญหาอย่างหนึ่งที่พบในพลอยสังเคราะห์ก็คือ เนื่องจากมีคุณสมบัติเหมือนกับพลอยธรรมชาติ บางครั้งผู้ขายจะจำแนกพลอยประเภทนี้ให้เป็น พลอยแท้ (genuine gemstone) หรือพลอยที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพ ในการเลือกซื้อจึงควรสอบถามที่มาหรือแหล่งกำเนิดของพลอยไว้ด้วย

เทคนิคในการเลือกซื้อพลอย
arrow-pinkสิ่งที่แน่นอนที่สุดคือ เลือกซื้อพลอยจากบริษัทหรือร้านค้าที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะการซื้อพลอยธรรมชาติ ควรถามหาใบรับประกัน
arrow-pinkในการเลือกซื้อพลอยธรรมชาติที่ง่ายที่สุด คือ พลอยที่ไม่มีการปรับปรุงคุณภาพอย่างเช่น โกเมน (garnet)  เพอริดอต (peridot) เฮมาไทต์ (hematite)  อเลกซานไดรท์ (alexandrite)  และมุกดาหาร (moonstone)
arrow-pinkพยายามศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพลอยและเครื่องประดับให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ จากนั้นจึงเปรียบเทียบราคาพลอยจากผู้ขายต่างๆ และถามเพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ การใช้เวลาศึกษาทั้งข้อมูลและราคาของทั้งอัญมณีและเครื่องประดับจะช่วยเพิ่มพูนทักษะในการเลือกซื้อได้เป็นอย่างดี

อ้างอิง : About.com

ภาพประกอบ : CT Color Gems, BeautyDen.com

 

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

พลอยประจำเดือนเกิด
พลอยสี

12/16/2551 | Posted in , , , , , , , , , , | Read More »

แหวนแต่งงานที่เปลี่ยนไป...

  เมื่อ 50 ปีก่อน แหวนหมั้นและแหวนแต่งงานของผู้หญิงเกือบทั้งหมดจะมีรูปแบบคล้ายๆกัน คือ แหวนหมั้นเพชรเม็ดเดี่ยวที่ทำจากทองคำ และแหวนแต่งงานที่เป็นแหวนทองคำเกลี้ยง เนื่องมาจากประเพณีและค่านิยมที่มีมาแต่โบราณ ขนาดของเพชรที่ใช้ก็จะขึ้นอยู่กับฐานะของเจ้าบ่าว บางครั้งถ้าเจ้าบ่าวมีฐานะที่ดี แหวนแต่งงานก็อาจจะประดับเพชรเพิ่มลงไปด้วย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ค่านิยมเหล่านี้ก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ในปัจจุบันแม้ว่าปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจจะมีบทบาทสำคัญ แต่การแต่งงานก็ยังคงยึดถือประเพณีการสวมแหวนอยู่ดี แต่ก็มีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้รูปแบบของแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานเปลี่ยนไป สาเหตุหนึ่งมาจากการค้นพบโลหะชนิดต่างๆ เช่น แพลตินัม ไทเทเนียม ทังสเตน และ การชุบด้วยโรเดียม ทำให้มีการใช้วัสดุเหล่านี้แทนทองคำ

เมื่อมีการใช้โลหะชนิดอื่นมาทำแหวน อัญมณีที่ใช้ก็ไม่ใช่เพชรเสมอไป เจ้าบ่าวบางคนอาจจะได้รับแหวนซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งอาจเป็นพลอยแซฟไฟร์ ทับทิม หรือมุกล้อมเพชร ซึ่งมีความสวยงามและน่าสนใจไม่แพ้เพชรเม็ดเดี่ยวๆเลย แม้แต่เพชรเองก็ยังมีการเลือกใช้เพชรสีแฟนซี เช่น สีชอคโกแลต ชมพู ฟ้า แดง เขียวมะกอก ม่วง และดำ ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้เลือกที่ต้องการเพชรที่หายากและมีความเป็นเอกลักษณ์ บางคู่ถึงขั้นต้องการอัญมณีที่จะไม่สามารถหาได้อีกใน 20 ข้างหน้าเลยก็มี

ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การที่ผู้หญิงในยุคปัจจุบันต้องออกไปทำงานนอกบ้าน จึงต้องการเครื่องประดับที่มีความทนทานต่อการกระแทกหรือขีดข่วนได้ดี รูปแบบที่กำลังเป็นที่นิยมก็คือ แหวนหมั้นและแหวนแต่งงานที่ดีไซน์ให้ใส่ด้วยกันเป็นชิ้นเดียวได้ โดยอาจจะออกแบบให้ตัวเรือนเป็นแบบฝังเพชรล้อมรอบแหวนแทนรูปแบบของแหวนชูเพชรเม็ดเดี่ยว ซึ่งให้ทั้งความสวยงามและป้องกันการขีดข่วนได้ดี ในส่วนของเจ้าบ่าวเองก็มีบทบาทและส่วนร่วมในการเลือกแหวนมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่ผู้ชายให้ความสำคัญกับแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานก็คือ ความทนทาน แหวนแต่งงานของผู้ชายเหล่านี้จึงอาจทำด้วยไทเทเนียมหรือทังสเตนซึ่งมีความทนทานมาก เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ชาย แต่ไม่เหมาะใช้ทำเครื่องประดับสำหรับผู้หญิง สแตนเลสก็เป็นโลหะชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับสำหรับผู้ชาย เช่น แหวน สร้อยข้อมือ หรือสร้อยคอ ถึงแม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองหรือไทเทเนียมก็ตาม แต่ก็สร้างสีสันให้กับวงการเครื่องประดับสำหรับผู้ชายได้ค่อนข้างมาก

สิ่งสำคัญสำหรับการเลือกแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานในปัจจุบันอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่หากจะไม่ปฏิบัติตามค่านิยมเดิมๆ หากแต่สิ่งสำคัญที่แท้จริงก็คือ การเลือกแหวนให้เหมาะสมกับรูปแบบชีวิตประจำวันและการใช้งานของผู้สวมใส่นั่นเอง

ข้อมูลจาก Destination Wedding Blog

 

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

All About Wedding Rings
Why Platinum-
การวัดขนาดแหวน

12/10/2551 | Posted in , , , , , , , , | Read More »

สุดยอดนวัตกรรม 3 ระบบ จากไซโก

ไซโก นำโดย ภูริช มหาดำรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด นำสุดยอดนวัตกรรมชิ้นแรก หรือมาสเตอร์ พีซ (Master piece) ที่เป็นต้นตระกูลของนาฬิกาสายพันธุ์คุณภาพ 3 ระบบ ได้แก่ ระบบจักรกลไขลาน, ควอทซ์ และคีเนติก จากพิพิธภัณฑ์ไซโกที่ญี่ปุ่น บินตรงมาเพื่อให้แฟนคลับนาฬิกาพันธุ์แท้ได้ยลโฉมกันในงาน Bangkok World Watch ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 27 พ.ย.-15 ธ.ค. นี้ ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางกะปิ

ในปี คศ.1913 หรือ 95 ปีที่แล้ว นาฬิกาข้อมือเรือนแรกของญี่ปุ่นใน ระบบจักรกลไขลาน (Mechanical System) ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยใช้ชื่อในขณะนั้นว่า Laurel ซึ่งทุกชิ้นส่วนของนาฬิกาเรือนนี้ผลิตขึ้นจากโรงงานเดียวกัน นำความภาคภูมิใจมาให้ชาวอาทิตย์อุทัยเป็นอย่างยิ่งที่สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้ ซึ่ง Laurel นี้ เป็นนาฬิการะบบจักรกลไขลาน ที่ให้ความเที่ยงตรงและแม่นยำที่สุดในช่วงเวลานั้น ซึ่งปัจจุบัน ไซโก ได้นำเทคโนโลยีต้นแบบนี้ มาพัฒนาเป็นนาฬิการุ่นต่างๆ ซึ่งรวมถึง ไซโก The Prince Monster เจ้าชายอสูรแห่งท้องทะเล รุ่นลิมิเต็ด นาฬิกาจักรกลดำน้ำอัตโนมัติรูปทรงสปอร์ต โดดเด่นด้วยตัวเรือนสีพิงค์โกลด์ สีแปลกตา ให้ความรู้สึกดุดันและเข้มแข็ง ผลิตออกมาจำนวนจำกัดเพียง 1,666 เรือนทั่วโลก และมีจำหน่ายในงานนี้เพียงแค่ 80 เรือนเท่านั้น ขอบหน้าปัดด้านในสามารถหมุนเพื่อแสดงทิศทางเสมือนมีเข็มทิศติดตัว กันน้ำได้ลึกถึง 200 ม. ถือเป็นนาฬิการุ่นเหลนที่เป็นเครือญาติใกล้ชิดของ Laurel ก็ว่าได้ ราคาจำหน่าย 23,666 บาท

หลังจากที่ชาวโลกได้ชื่นชมกับความสำเร็จของเทคโนโลยีระบบจักรกลไขลานมาระยะหนึ่ง ไซโก ได้ผลิตนาฬิกาข้อมือ ระบบควอทซ์ (Quartz) เรือนแรกของโลก เพื่อยืนยันความก้าวล้ำของเทคโนโลยีอีกครั้ง ภายใต้ชื่อ Astron ซึ่งราคาในขณะนั้นสูงเทียบเท่ารถยนต์ 1 คัน เพราะตัวเรือนทำด้วยทองคำแท้ ซึ่งระบบควอทซ์นี้เองยังเป็นต้นแบบของอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ในปัจจุบัน เช่น คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

 

นาฬิกาไซโกรุ่นล่าสุดที่ได้นำเทคโนโลยีระบบควอทซ์มาพัฒนาได้อย่างเหนือชั้น คือ ไซโก Sportura Double Chronograph สามารถจับเวลาได้นานต่อเนื่องถึง 100 นาที ด้วยระบบ Fly Back หน้าปัดจำลองแบบรถแข่ง Formula 1 ราคาจำหน่ายที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย 22,200 บาท

และอีกหนึ่งเทคโนโลยีของไซโก ที่สร้างปรากฏการณ์ให้วงการนาฬิกาโลกได้ตื่นตะลึง คือ ระบบคีเนติก (Kinetic) ที่แปรพลังงานเคลื่อนไหวของร่างกายให้เป็นพลังขับเคลื่อนนาฬิกา โดยไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ซึ่งไซโกเป็นเจ้าแรกที่ได้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ตั้งแต่ปี 1988 ภายใต้ชื่อรุ่น A.G.S. ซึ่งเคล็ดลับของระบบนี้คือการนำระบบการทำงานของระบบจักรกลไขลาน มาผสมผสานกับความเที่ยงตรงของระบบควอทซ์ จนถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของไซโก ซึ่งเลือดใหม่ที่สืบทอดความล้ำหน้าของเทคโนโลยีระบบคีเนติกในรุ่นปัจจุบันคือ ไซโก Arctura Ultimate Kinetic Chronograph Limited Edition โดดเด่นด้วยดีไซน์โค้งธรรมชาติ (The art of arch) แสดงฟังก์ชั่นการบอกเวลาและจับเวลาด้วย 5 หน้าปัดย่อย วางจำหน่ายเพียง 21 เรือนในประเทศไทย จากจำนวนการผลิตที่จำกัดเพียง 500 เรือนทั่วโลก ด้วยราคาสมน้ำสมเนื้อ 170,000 บาท

เพื่อเป็นการยืนยันในความสำเร็จของไซโก คนไทยมีโอกาสได้ร่วมสัมผัสกับ ตัวแม่ ของเทคโนโลยีชั้นสูงของระบบนาฬิกาประเภทต่างๆ แล้ว โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น ทั้งระบบจักรกลไขลาน (Mechanical), ระบบควอทซ์ (Quartz) และระบบคีเนติก (Kinetic) ที่บินลัดฟ้าข้ามน้ำข้ามทะเลมาโชว์สมรรถนะและความล้ำยุคของโลกกาลเวลาเมื่อครั้งอดีต ในงาน Bangkok World Watch ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 27พ.ย.-15 ธ.ค. นี้ ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางกะปิ นอกจากนี้ ทางไซโก ยังได้นำภาพถ่ายที่ชนะเลิศการประกวด ดอกไม้ไฟแห่งความจงรักภักดี 80 พรรษามหาราชา มาจัดเป็นนิทรรศการขนาดย่อม เพื่อให้ผู้สนใจได้ชื่นชมกับความตระการตาของดอกไม้ไฟที่ไซโกจัดขึ้น เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา พร้อมๆไปกับการเลือกหาประดิษฐกรรมเรือนเวลาคอลเลคชั่นล่าสุดจากไซโกอีกหลากหลายรุ่น ที่ผ่านการพัฒนามาจากคุณสมบัติโดดเด่นของระบบต่างๆ ทั้ง 3 ระบบ จนกระทั่งได้ชื่อว่า เที่ยงตรง ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นก็คือคำว่า ไซโก นั่นเอง นอกจากนี้ความหรูหรางามล้ำค่าของนาฬิการุ่นต่างๆในวันนี้ยังอาจมีค่าสูงขึ้นไปอีกในอนาคตก็เป็นได้

ข้อมูลจาก บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด

12/09/2551 | Posted in , , , , , , | Read More »

อัญมณีไทยขายได้ทุก 27 วินาที บนอีเบย์

ebay ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตต่อเนื่อง ไตรมาส 3 อีเบย์ฟันยอดซื้อ-ขายกว่า 14,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ระบุตลาดไทยเติบโตเช่นกัน อัญมณีของไทยขายได้ในทุก ๆ 27 วินาที เพราะสินค้ามีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครเป็นที่สนใจของผู้ซื้อ
น.ส.อัลลิส กิม ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจของอีเบย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจ อีคอมเมิร์ซมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี ค.ศ. 2005-2010 จะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ปัจจุบันอีเบย์มีส่วนแบ่งทางการตลาด 14% ของตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลก ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาอีเบย์มีมูลค่าการซื้อขาย 14,300 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสินค้าใหม่รวมทั้งสิ้น 700 ล้านรายการ แต่ละวันจะมีสินค้าใหม่ที่ได้รับการเสนอขาย 7.1 ล้านรายการใน 5 หมื่นหมวด สินค้าที่มีการซื้อขายสูงสุด คือ อีเบย์ มอเตอร์ มูลค่า 16.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ เครื่องใช้ไฟฟ้า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเสื้อผ้าเครื่องประดับจำนวน 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งยอดซื้อขายสินค้ากว่า 50% มาจากสมาชิกที่ทำการซื้อขายนอกอเมริกา

สำหรับประเทศไทยเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีสินค้าที่มีเอกลักษณ์และคุณภาพ โดยเฉพาะงานฝีมือซึ่งแตกต่างจากที่อื่นเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อ โดยปัจจุบันในอีเบย์สินค้าอัญมณีของไทยสามารถขายได้ในทุก ๆ 27 วินาที หลังจากที่บริษัทได้ร่วมกับเว็บไซต์สนุกเปิดเว็บไซต์ shopping.co.th ก็มีมูลค่าการซื้อขายในไทยเติบโต 36% สินค้าที่มีการซื้อขายมากที่สุดตามลำดับ คือ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย อัญมณี สินค้าเกี่ยวกับรถยนต์และประดับยนต์

เว็บไซต์อีเบย์ร่วมกับพันธมิตรจัดงานอีคอมเมิร์ซ ซัมมิท ภาคเหนือ 2008 ระหว่าง 1-10 ธ.ค.ที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมผู้สนใจและธุรกิจเอสเอ็มอี เรียนรู้กลยุทธ์ทำธุรกิจซื้อขายออนไลน์ เนื่องจากในปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอีในภาคเหนือที่มีประมาณ 25,000 ราย มีเพียง 2.2% เท่านั้น ที่ประกอบธุรกรรมการค้าบนอินเทอร์เน็ต ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่ www.shopping. co.th/ebaysummit

 

ข้อมูลจาก เดลินิวส์

12/08/2551 | Posted in , | Read More »

มหกรรมงานแสดงนาฬิกาสุดยิ่งใหญ่ปลายปี 51

arrow-pink "เดอะมอลล์ กรุ๊ป" รวบรวมนาฬิกาแบรนด์ดังระดับโลกครบคอลเลคชั่นจากงาน Basel World สวิตเซอร์แลนด์มาตั้งตระหง่านไว้ที่งาน Bangkok World Watch ครั้งที่ 8 ภายใต้คอนเซ็ปต์ "The Story of Time" ณ MCC Hall  เดอะมอลล์ บางกะปิ ระหว่างวันที่ 27 พ.ย 51 — 15 ธ.ค. 51 ตื่นตาตื่นใจกับนาฬิกาสุดหรูแบรนด์ดังที่ขนมาให้ยลโฉมกว่า 100 แบรนด์

ไฮไลท์ของงาน 3 ส่วนที่ไม่ควรพลาดชม  คือ
1. นิทรรศการนาฬิกา Precious Gallery  รวมนาฬิกาทรงคุณค่าในประวัติศาสตร์และหาดูยากของเมืองไทยเพื่อให้คนชมงานทราบประวัติและเรื่องราวของนาฬิกามากขึ้น  โดยเนรมิตพื้นที่การจัดงานเสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์นาฬิกาที่รวบรวมเรื่องราวนวัตกรรมของนาฬิกา พิเศษด้วยการจัดแสดงนาฬิกาเรือนสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยและโลก  อาทิ  นาฬิกา 10 เรือนจากกรมอุทกศาสตร์ทหารเรือ  นาฬิกาที่หาชมยากและทรงคุณค่าของนักสะสมนาฬิกาของไทย  และที่พลาดชมไม่ได้กับสุดยอดนาฬิกาของ Seiko จากพิพิธภัณฑ์ที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้นำมาจัดแสดงในงาน Bangkok World Watch ครั้งที่ 8  เป็นที่แรก  ได้แก่ นาฬิกา Seiko รุ่น Laurel  นาฬิกาข้อมือระบบจักรกลเรือนแรกของประเทศญี่ปุ่นที่ผลิตขึ้นในปี 1913  นาฬิกา Seiko รุ่น Astron นาฬิกาข้อมือไซโกระบบควอทซ์เรือนแรกของโลก ในปี 1969 ตัวเรือนทำจากทองคำแท้ ราคาในขณะนั้นเทียบเท่ากับรถยนต์ 1 คัน นับเป็นการปฏิวัติวงการนาฬิกาโลก ทำให้บริษัทนาฬิกาชั้นนำทั่วโลกหันมาใช้ระบบควอทซ์กันหมด และนาฬิกา SEIKO รุ่น GOLD นาฬิกาข้อมือระบบคีเนติคเรือนแรกของโลก ในปี 1988
2. Watch Master ผู้เชี่ยวชาญ ผู้รู้และนักสะสมนาฬิการ่วมเปิดมุมมอง และให้ความรู้เกี่ยวกับนาฬิกาอย่างถึงแก่น   ตอบทุกคำถามที่คุณอยากรู้และไม่เคยรู้เกี่ยวกับนาฬิกากับกูรูตัวจริง
3. Fashion & Design  หลากหลายไอเดียดีไซน์แฟชั่นกับนาฬิกาโดยฝีมือการออกแบบของดาราและคนดัง และในปีนี้พิเศษที่เป็นครั้งแรกกับการประกวดออกแบบลวดลายเพ้นท์บนสายนาฬิการ่วมกับ o.d.m. จากญี่ปุ่น ผลงานที่ชนะจะผลิตขึ้นจริงเป็นรุ่นพิเศษ (Limited Edition) ในจำนวนจำกัด จำหน่ายออกไปทั่วโลก

 

arrow-pink The Ultimate Watch Fair สุดยอดงานนาฬิการะดับเวิลด์คลาส พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ รวบรวมนาฬิกาแบรนด์ดังระดับโลกกว่า 150 แบรนด์ ครบที่สุด เต็มคอลเลคชั่นสุดหรูในรุ่นมาสเตอร์พีซ และรุ่น Limited edition ตั้งแต่วันที่ 9 - 26 ธันวาคม 2551 ณ โรบินสัน เชียงใหม่

12/06/2551 | Posted in , , , , , | Read More »

อนาคตการลงทุนทองคำปี 2009

commodity

“ดร. สุวรรณ” ชี้ทองปีหน้าคาดขึ้นถึง 900 เหรียญต่อออนซ์ จากแรงเก็งกำไร แนะลงทุนทองคำเป็นทางเลือกที่ดี

ขณะที่บลจ.ทหารไทยชูทางเลือกลงทุนคอมมอดิตี้ปีหน้ายังรุ่ง เชื่อช่วยกระจายเสี่ยงได้ดี โดยเฉพาะทองคำ คาดปีหน้ายังพุ่งเกิน 700 ดอลล์ต่อออนซ์ รับดีมานด์ล้นจากจีนและอินเดีย
ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร ประธานชมรมคนออมเงิน เปิดเผยว่า การลงทุนในทองคำถือเป็นทางเลือกที่ดีในการลงทุน เนื่องจากราคาทองจะเป็นไปตามกลไกตลาดโลกและยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายในประเทศน้อย โดยมองว่าราคาทองคำในปีหน้ามีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปกว่าระดับ 900 เหรียญต่อออนซ์ เนื่องจากมองว่าในปีหน้าจะมีการเก็งกำไรในราคาทองคำมากขึ้นรวมถึงการเข้ามาปั่นราคาของกองทุนต่างๆ
สำหรับการเปิดซื้อขาย Gold Futures มองว่าเป็นทางเลือกการลงทุนที่ดี แต่นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนให้ดี เนื่องจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีความซับซ้อนและมีระยะเวลาสัญญาที่ไม่ยาวนัก โดยสามารถเก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง อีกทั้งหากมีการขาดทุนใน Gold Futures มูลค่าการขาดทุนก็จะมีสูงกว่าการขาดทุนในหุ้น อีกทั้งยังแนะนำนักลงทุนให้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 3-4% ซึ่งถือว่ายังสูงกว่าระดับอัตราเงินเฟ้อที่ 2-3% เนื่องจากมีความปลอดภัยสูงและให้ผลตอบแทนที่แน่นอน ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยเทียบเท่ากับพันธบัตรสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้นแนะนำให้ชะลอการลงทุนประมาณ 6-9 เดือน เพื่อติดตามสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดความขัดแย้งอยู่ในขณะนี้ว่าจะสามารถยุติได้เมื่อใด ประกอบกับปัจจัยเศรษฐกิจทั่วโลกที่เริ่มเห็นสัญญาณแนวโน้มการชะลอตัวอย่างชัดเจนว่าจะสามารถฟื้นตัวได้เมื่อใด อย่างไรก็ดีแนะนำสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะสามารถซื้อหุ้นบางตัวที่ให้เงินปันผลในระดับสูง 20%


ก่อนหน้านี้นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด -TMBAM เปิดเผยว่า การลงทุนทางเลือกในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ในปี 2552 จะมีบทบาทสำคัญช่วย กระจายความเสี่ยงเนื่องจากสร้างผลตอบแทนที่ดีอาจจะไม่เหมาะสม โดยธรรมชาติคอมมอดิตี้จะมีผลตอบแทนที่ดีเมื่อเศรษฐกิจอยู่ในช่วงเงินเฟ้อสูง ทั้งในกลุ่มประเทศสินค้าเกษตร กลุ่มพลังงาน เช่นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน เป็นต้น รวมทั้งกลุ่มโลหะอุตสาหกรรม เช่น ทองแดง อะลูมิเนียม สังกะสี ตะกั่ว เป็นต้น และกลุ่มโลหะมีค่า ได้แก่ทองคำ และเงิน “ปัจจุบันเริ่มจะมีการซื้อขายคอมมอดิตี้ประเภทไฟฟ้า อากาศ และพลาสติกบ้างแล้ว ซึ่งจะเห็นว่าคอมมอดิตี้จะมีช่องทางเลือกหลากหลาย แต่สิ่งที่น่าสนใจปีหน้าคือ ทองคำ” นางโชติกา กล่าว


ทั้งนี้ เนื่องจากราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับสูงขึ้น ได้ตามความต้องการ ของประเทศพัฒนา เช่น จีน และอินเดีย เป็นต้น ขณะที่แหล่งผลิตทองคำยังอยู่ในปริมาณเท่าเดิม นอกจากนี้ จากข้อมูลของนักวิเคราะห์ต่างประเทศระบุว่า ต้นทุนการผลิตทองคำโดยเฉพาะค่าขุดเจาะเหมืองอยู่ระดับสูงเฉลี่ยประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งหากรวม กับต้นทุนอื่นจะอยู่ที่ 700 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์ ส่งผลให้ราคาทองคำน่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่านี้

ข้อมูลจาก สยามธุรกิจ

 

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

Gold Investment : ทำไมจึงควรลงทุนใน Gold Futures

Gold Investment : Gold Futures

Gold Investment : เริ่มต้นซื้อ-ขายทองคำ

12/06/2551 | Posted in , , , | Read More »

ความคิดเห็นล่าสุด

บทความล่าสุด